ล็อกอิน
 

Get the tools, support and technology you need to get the most form your trades.

เลือกความเป็นอิสระในการลงทุนด้วยตนเอง เกาะติดความเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตกับ www.dbsvitrade.com ที่ให้ความสะดวกสบายในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ การบริหารพอร์ต ความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบคำสั่งซื้อขายได้ด้วยตนเอง ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ

เปิดบัญชีวันนี้ เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ เช่น
  • All You Need to Know ท่านสามารถติดตามราคาซื้อขายหุ้นเรียลไทม์ รวมทั้งราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายที่ดีที่สุด 3 อันดับ ภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดัชนีอุตสาหกรรม ราคาซื้อขายสูงสุดต่ำสุด ราคาเฉลี่ย ข่าวล่าสุดจากตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงสามารถจัดกลุ่มหุ้นที่สนใจได้ถึง 5 กลุ่ม หรือ 50 หลักทรัพย์

  • Professional Service ท่านสามารถรับบทวิเคราะห์ต่างๆ ของ DBSV ที่ครอบคลุมและหลากหลาย ได้แก่ บทวิเคราะห์รายวัน รายเดือนและรายไตรมาส กลยุทธ์การลงทุน บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และมุมมองทางด้านวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค และด้วย "ระบบค้นหา" จะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามข่าวสาร และบทวิเคราะห์ทั้งในปัจจุบันและย้อนหลัง

  • Comprehensive Technical Analysis   DBSVitrade ยังให้เครื่องมือวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกราฟให้เลือกใช้มากมายไม่ว่าจะเป็น MACD, RSI, Trend Analysis, Stochastic Oscillator เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา ดัชนี อุตสาหกรรมทั้งในปัจจุบันและย้อนหลังได้สูงสุดถึง 20 ปี

  • Fully Equipped training center ด้วยความเข้าใจถึงความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาความรู้ในด้านการลงทุน รวมถึงพัฒนาความรู้ที่มีอยู่เดิมให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปในโลกของข้อมูลข่าวสาร ยุคปัจจุบันที่มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้จัดตั้ง "ศูนย์ฝึกอบรมการลงทุน" เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและได้เปิดอบรมหลักสูตรต่างๆ มากมาย อาทิเช่น ความรู้พื้นฐานการลงทุน การวิเคราะห์ปัจจัยทางพื้นฐานและเทคนิค การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

สิ่งที่ควรรู้ :

  การส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต การซื้อหุ้นเอ็นวีดีอาร์
  สิทธิประโยชน การชำระราคา
  ค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย
  ภาษีที่เกี่ยวข้อง  

การส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ (Trading Instructions)
 
  1. สำหรับท่านที่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต ประเภท Cash Balance วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของบัญชีซื้อขายประเภทนี้ จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ท่านฝากไว้กับบริษัทฯ

  2. เมื่อบริษัทฯ   ได้อนุมัติเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทอินเทอร์เน็ตให้กับท่านแล้ว   บริษัทฯ ขอให้ท่านทำการฝากเงินมายังบริษัทฯ เพื่อเป็นวงเงินเริ่มต้นในการซื้อขายหลักทรัพย์ของท่าน โดยโอนเงินมายังบริษัทฯ ภายใต้บัญชีชื่อ "บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อลูกค้า" ทั้งนี้ ท่านสามารถเลือกทำรายการผ่านธนาคาร 5 ธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ ตามรายละเอียดดังนี้

    ธนาคาร สาขา หมายเลขบัญชี
    ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ราชเทวี 123-4-01780-2
    ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สยามสแควร์ 038-2-68705-7
    ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย) จำกัด สาทร 000-2-33582-7
    ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สยามสแควร์ 026-2-58641-3
    ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) พญาไท 003-2-80367-8

    หลักจากทำการฝากเงินผ่านธนาคารดังกล่าวข้างต้นแล้ว ท่านสามารถเลือกช่องทางในการแจ้งให้บริษัทฯ ทราบดังนี้
    • แฟกซ์ใบนำฝากเงินพร้อมระบุเลขที่บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของท่านมายังฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์
      ที่โทรสาร 0-2857-7570
    • โทรศัพท์แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2857-7542 ถึง 7550
    • แจ้งการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยเข้าไปที่ "ซื้อขายหุ้นออนไลน์" คลิกที่ "การชำระราคาหุ้น" แล้วเลือก "การฝากเงิน" ท่านจะพบ “แบบฟอร์มแจ้งการโอนเงินแก่บริษัท (Online Cash Deposit Notification)” กรุณากรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนส่งมายังบริษัทฯ

  3. การนำฝากเงินด้วยเงินสด เงินโอนผ่านทางธนาคาร จำนวนเงินเท่ากับหรือมากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ (Line Available) ของท่านจะเพิ่มขึ้นภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในวันทำการ หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการยืนยันจากธนาคารแล้ว

    สำหรับวงเงินฝากน้อยกว่า 50,000 บาท บริษัทฯ จะปรับปรุงวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ (Line Available) ให้กับท่านในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว

    สำหรับกรณีที่ฝากด้วยเช็ค วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ (Line Available) จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการยืนยันจากธนาคารว่าเรียกเก็บเงินตามเช็คได้แล้ว

  4. กรุณาตรวจสอบวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ (Line Available) ของท่านทุกครั้ง ก่อนที่ท่านจะทำการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อท่านส่งรายการซื้อหลักทรัพย์ วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์จะถูกหักโดยอัตโนมัติ และวงเงินจะถูกคืนเมื่อท่านยกเลิกรายการซื้อหลักทรัพย์นั้นๆ

  5. สำหรับการขายหลักทรัพย์ เมื่อรายการได้รับการยืนยันการขาย หรือจับคู่ (Matched) จากตลาดหลักทรัพย์ฯ วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของท่านจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติเท่ากับยอดเงินที่ขายได้

  6. คำสั่งซื้อ และ/หรือ ขายหลักทรัพย์ (Order) จะมีอายุเพียง 1 วันทำการ (Day Order) เท่านั้น ภายในเวลา 17.00 น. ถึง 17.05 น. ของทุกวันทำการ ระบบซื้อขายหลักทรัพย์จะทำการคืนวงเงิน และ/หรือหลักทรัพย์  สำหรับคำสั่งที่ไม่รับการยืนยันหรือจับคู่  และจะเปลี่ยนสถานะของคำสั่งที่ไม่ได้รับการยืนยันเป็น “E” (Expired) หมายถึง คำสั่งนั้นๆ ได้หมดอายุลงแล้ว

  7. ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของคำสั่ง หรือบัญชีลงทุน (Portfolio) ของท่าน ได้ทุกเมื่อ โดยการคลิกที่ "ดูสถานะคำสั่งและรายการต่างๆ" และเลือก "ข้อมูลพอร์ต"

  8. ท่านสามารถตรวจสอบรายการซื้อขายทั้งหมดของท่านในวันนั้นๆ ได้โดยการเข้าไปที่ “ดูสถานะคำสั่งและรายการต่างๆ” และคลิกที่ “สรุปคำนวณเงินที่ซื้อขาย” จะแสดงข้อมูลจำนวนเงินซื้อขายของแต่ละหุ้นในวันนั้น

  9. หากท่านต้องการทราบรายการชำระราคา ท่านสามารถเข้าไปดูที่ “ดูสถานะคำสั่งและรายการต่างๆ” และคลิกที่ “การชำระราคา” ซึ่งจะแสดงข้อมูลการชำระราคาของ 3 วันทำการก่อน แต่ทั้งนี้บริษัทฯ จะจัดส่ง ใบยืนยันซื้อขายหลักทรัพย์ไปยังท่านทางไปรษณีย์ในวันรุ่งขี้นหลังจากวันซื้อขายหลักทรัพย์

  10. หากท่านมีความประสงค์จะซื้อขายหุ้น เอ็นวีดีอาร์ (NVDR) ขอให้ท่านระบุในคำสั่งซื้อหรือขายว่าเป็นการซื้อขายเอ็นวีดีอาร์ โปรดคลิกที่นี่ หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอ็นวีดีอาร์

เอ็นวีดีอาร์ (NVDR Trade)
 

เอ็นวีดีอาร์ คืออะไร

เอ็นวีดีอาร์ (NVDR) หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทย่อยที่ตลาดหลักทรัพย์จัดตั้งขึ้น ซึ่งคือ “บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด” (Thai NVDR Company Limited) โดยมีลักษณะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนอัตโนมัติ (Automatic List) วัตถุประสงค์หลักของเอ็นวีดีอาร์ คือ เพื่อกระตุ้นการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนได้โดยไม่ต้องติดเรื่องเพดานการถือครองหลักทรัพย์ของชาวต่างชาติ (Foreign Limit) พร้อมทั้งสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน เช่น เงินปันผลและสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนนอกจากนี้ เอ็นวีดีอาร์ยังช่วยขจัดปัญหาของผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศบางประเทศที่ไม่สามารถลงทุนในหน่วยลงทุน ซึ่งรวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพื่อลงทุนซึ่งเป็นคนต่างด้าว (Thai Trust Fund : TTF) ได้ ทั้งนี้ ผู้ถือเอ็นวีดีอาร์จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมของบริษัทจดทะเบียน (Non-Voting Rights) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเอ็นวีดีอาร์จะออกมาเพื่อส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนชาวต่างประเทศแต่ก็อนุญาตให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในเอ็นวีดีอาร์ได้

การซื้อขายเอ็นวีดีอาร์ (NVDR Trading Guidelines)

การซื้อขายเอ็นวีดีอาร์เป็นลักษณะเดียวกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป เพียงแต่ในการสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ นักลงทุนต้องระบุในคำสั่งซื้อหรือขายว่าเป็นการซื้อหรือขายเอ็นวีดีอาร์

 
สิทธิประโยชน์ (Investor Relations Information)
 

สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ต่างด้าว (Stock Holding)

ตามกฎและข้อบังคับเกี่ยวกับการถือครองหลักทรัพย์สามัญของนักลงทุนต่างด้าว กำหนดให้นักลงทุนต่างด้าว หรือชาวต่างชาติถือหุ้นสามัญทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ยกเว้นในหมวดอุตสาหกรรมธนาคารและบริษัทเงินทุน ซึ่งยินยอมให้นักลงทุนต่างด้าวถือหุ้นสามัญได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสถานะต่างด้าว (Foreign) จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิเช่น เงินปันผล สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน การเข้าประชุมผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นต้น แต่ถ้านักลงทุนต่างชาติลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสถานะเป็นเอ็นวีดีอาร์ (NVDR) จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน เช่น เงินปันผล และสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน  แต่จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมของบริษัทจดทะเบียน  (Non-Voting Rights)
โปรดคลิกที่นี่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของเอ็นวีดีอาร์ (NVDR)

สิทธิประโยชน์ (Investor’s Benefits)

ก. หุ้นเพิ่มทุน (Right Issue)
 

หลังจากปิดสมุดจดทะเบียน นายทะเบียนหลักทรัพย์จะรวบรวมรายชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ทั้งหมดเพื่อคำนวณและจัดสรรสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิเช่น เงินปันผล สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน การเข้าประชุมผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นต้น บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะจัดส่งใบจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนไปยังผู้ถือหลักทรัพย์โดยตรง โดยจะส่งไปยังที่อยู่ที่ท่านได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ เมื่อเปิดบัญชี หากท่านมีความประสงค์จะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัท จดทะเบียนนั้นๆ ก็สามารถจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้โดยผ่านบริษัทฯ หรือจองโดยตรงกับบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ

   
ข. เงินปันผล (Dividend)
 

เมื่อปิดสมุดจดทะเบียนแล้ว บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะดำเนินการนำส่งเช็คเงินปันผล พร้อมทั้งหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ส่งให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ตามที่อยู่ที่แจ้งกับบริษัทฯ ทางไปรษณีย์ กรณีที่ท่านได้รับเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียน บริษัทจำกัด หรือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ท่านจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10%

   
 

เงินปันผลจะถูกจ่ายเป็นเงินไทยเท่านั้น เพราะฉะนั้นบริษัทฯ ขอแนะนำให้ลูกค้าชาวต่างชาติเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารกับธนาคารใดธนาคารหนึ่งในประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์ในการรับเงินปันผลได้อย่างรวดเร็ว

  Top

การชำระราคาค่าซื้อขายหลักทรัพย์ (Settlement)
 

เมื่อท่านได้รับการยืนยันผลการซื้อขาย ท่านจะต้องชำระค่าซื้อหลักทรัพย์ หรือรับเงินค่าขายหลักทรัพย์ ณ วันทำการที่ 3 หลังจากเกิดรายการซื้อขายหลักทรัพย์  (T+3  โดย T  =  วันที่เกิดรายการซื้อขาย)   สำหรับลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทอินเทอร์เน็ต ที่มีบัญชีประเภท Cash Balance หรือชำระเงินผ่านระบบตัดชำระเงินอัตโนมัติ (ATS) เงินค่าซื้อหลักทรัพย์จะถูกหักจากบัญชีของท่านโดยอัตโนมัติ สำหรับค่าขายบริษัทฯ จะนำฝากเข้าบัญชีของท่านโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกันในวันทำการที่ 3 หลังจากเกิดรายการซื้อขายหลักทรัพย์ (T+3)

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลการชำระราคาของ 3 วันทำการก่อน ได้โดยเข้าไปที่ “ดูสถานะคำสั่งและรายการต่างๆ” และคลิกที่ “การชำระราคา”

 
ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Commission & Fee Schedule)
 
บริษัทฯ คิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์เท่าไหร่?

บริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์ตามตารางด้านล่าง
วิธีการชำระเงินค่าซื้อขายหลักทรัพย์ อัตราค่าธรรมเนียม
 บัญชีที่ชำระค่าซื้อขายแบบเงินฝาก (Cash Balance) 0.15%
 บัญชีที่ชำระค่าซื้อขายแบบโอนเงินผ่านธนาคาร (ATS) 0.20%

หมายเหตุ :

  1. เป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
  2. อัตราธรรมเนียมขั้นต่ำยังคงคิดที่อัตราเดิม คือ 50 บาทต่อวัน
  3. คำสั่งซื้อขายที่ส่งผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดยังคงคิดอัตราเดิม คือ 0.25%
  4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
 

ค่าธรรมเนียมอื่นๆ (Other Fees Schedule)

ประเภท อัตราเรียกเก็บ หมายเหตุ
การเบิกใบหลักทรัพย์ 80 บาท ต่อหลักทรัพย์ รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
การโอนหลักทรัพย์ผ่านศูนย์รับฝาก 80 บาท ต่อรายการ รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
การชำระเงินค่าซื้อหลักทรัพย์ล่าช้า

  • ค่าปรับตามตลาดหลักทรัพย์ฯ
        กำหนด


  • ค่าปรับดอกเบี้ยล่าช้า


  • 500 บาท ต่อวัน ต่อรายการ
    1,000 บาท ต่อวัน ต่อรายการ

    12% ต่อปี


    สำหรับล่าช้า 1 – 2 วันทำการ
    สำหรับล่าช้าตั้งแต่ 3 วันทำการขึ้นไป
    การส่งมอบหลักทรัพย์ล่าช้า

  • ค่าปรับตามตลาดหลักทรัพย์ฯ
        กำหนด


  • ค่าปรับตามศูนย์รับฝากหลัก
         ทรัพย์กำหนด






  • ค่าปรับดอกเบี้ยล่าช้า




  • 500 บาท ต่อวัน ต่อรายการ
    1,000 บาท ต่อวัน ต่อรายการ

    อัตราร้อยละของมูลค่าหลักทรัพย์ที่ผิดนัด
    ผิดนัด 1 วันทำการ : 0.50%
    ผิดนัด 2 วันทำการ : 0.75%
    ผิดนัด 3 วันทำการ : 1.00 %
    ผิดนัดมากกว่า 3 วันทำการ
    ขึ้นไป : 1.75 – 3.75%

    12%


    สำหรับล่าช้า 1 – 2 วันทำการ
    สำหรับล่าช้าตั้งแต่ 3 วันทำการขึ้นไป

    หมายเหตุ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

     
    ดอกเบี้ย (Interest Rate)
     

    สำหรับลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทอินเทอร์เน็ต ที่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท Cash Balance บริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ท่านในอัตราที่บริษัทฯ จะประกาศให้ทราบเป็นคราวๆ ไป ทั้งนี้บริษัทฯ จะนำฝากเข้าบัญชีของท่านโดยอัตโนมัติในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป

    ท่านสามารถตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวของเงิน ได้โดยเข้าไปที่ “ดูสถานะคำสั่งและรายการต่างๆ” และคลิกที่ “การเคลื่อนไหวของเงิน” ในเมนูย่อย ข้อมูลการเคลื่อนไหวของเงินจะแสดงรายการเคลื่อนไหวในรอบ 30 วัน

    หมายเหตุ อัตราดอกเบี้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามแต่บริษัทฯ จะเห็นสมควร

     
    ภาษีอากร (Taxes)
     
    ภาษีอากรสำหรับผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา
    • เงินกำไรจากการขายหลักทรัพย์
      ผู้ลงทุนไทย และต่างชาติ จะได้รับการยกเว้นภาษี เว้นแต่เงินกำไรจากการขายหลักทรัพย์ ประเภทหุ้นกู้ พันธบัตร ซึ่งจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 โดยมีสิทธิเลือกที่จะนำมารวมคำนวณภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้

    • เงินปันผล
      กรณีที่ท่านได้รับเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียน บริษัทจำกัด หรือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ท่านจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 10 โดยมีสิทธิเลือกที่จะนำมารวมคำนวณภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้ สำหรับชาวต่างชาติกำหนดให้นำไปรวมคำนวณภาษีปลายปี

    • ดอกเบี้ย
      สำหรับจำนวนเงินที่ท่านฝากไว้กับบริษัทฯ เพื่อเป็นวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์นั้น บริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยให้จ่ายแก่ท่านในอัตราที่บริษัทฯ ประกาศให้ทราบเป็นคราวๆ ไป แต่ทั้งนี้ดอกเบี้ยดังกล่าวจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 และท่านมีสิทธิเลือกที่จะนำดอกเบี้ยมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ปลายปีหรือไม่ก็ได้

    • สำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ โปรดตรวจสอบเงื่อนไขการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามอนุสัญญาภาษีซ้อนของประเทศนั้นๆ