| ||
ที่ UBC/Legal/L260-2005 28 เมษายน 2548 เรื่อง แจ้งสรุปมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2548 บริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2548 ของ บริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2548 เวลา 10:00 น. ถึง 12:00 น. ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 อาคาร ทิปโก้ เลขที่ 118/1 ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ มหานคร ได้มีมติในเรื่องสำคัญดังต่อไปนี้ 1.รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2547 และรายงานประจำปี 2547 2.อนุมัติงบดุล บัญชีกำไรขาดทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 3.อนุมัติให้งดจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีเป็นทุนสำรอง และงดจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2547 4.รับทราบกรรมการที่ต้องออกตามวาระ และอนุมัติเลือกตั้งกรรมการดังกล่าว ทุกท่านกลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทอีกวาระหนึ่ง ที่ประชุมมีมติรับทราบกรรมการดังต่อไปนี้ที่ต้องออกตามวาระ และอนุมัติเลือก ตั้งกรรมการดังกล่าวทั้งหมดกลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทอีกวาระหนึ่ง ได้แก่ (1) นายสุภกิต เจียรวนนท์ (2) นายอีเบ็น เกรย์ลิ่ง (3) นายจอห์น เจมส์ โวลคควิน (4) นายธนะชัย วงศ์ทองศรี (5) นายวิสิฐ ตันติสุนทร ดังนั้น คณะกรรมการของบริษัท ณ ปัจจุบัน จึงประกอบไปด้วยกรรมการ ดังต่อไปนี้ (1) นายสุภกิต เจียรวนนท์ (2) นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ (3) นายศุภชัย เจียรวนนท์ (4) นายอธึก อัศวานันท์ (5) นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข (6) นายอีเบ็น เกรย์ลิ่ง (7) นายอันทัวนี อันดรีช รูช์ (8) นายจอห์น เจมส์ โวลคควิน (9) นายวิสิฐ ตันติสุนทร (10) นายธนะชัย วงศ์ทองศรี (11) นางอรัญรัตน์ อยู่คง (12) นายสหาย ทรัพย์สุนทรกุล (ประธานกรรมการตรวจสอบ) (13) นางเพ็ญทิพย์ภา ดุลยจินดา (กรรมการตรวจสอบ) (14) นางสาวอลิซาเบธ หวัง (กรรมการตรวจสอบ) 5.อนุมัติค่าตอบแทนของกรรมการบริษัทประจำปี 2548 ในวงเงิน 5,040,000 บาท ประกอบด้วย วงเงิน 3,360,000 บาท สำหรับคณะกรรมการบริษัท และค่าตอบแทนเพิ่มอีก 1,680,000 บาท สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบ 6.อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และค่าสอบบัญชีประจำปี 2548 ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งให้นายขจรเกียรติ อรุณไพโรจนกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3445 และนางณฐพร พันธุ์อุดม ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3430 นายบุญมี งดงามวงศ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3673 และนางอุณากร พฤฒิธาดา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3257 ในนาม บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทโดยให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ ทำการตรวจสอบ และแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท และในกรณีที่ผู้ สอบบัญชีรับอนุญาตดังกล่าวข้างต้นไม่สามารถปฎิบัติงานได้ ให้ บริษัท ไพร้ซวอ เตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด จัดหาผู้สอบบัญชีรับอนุญาตอื่นของ บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด แทนได้ ทั้งนี้ โดยกำหนด จำนวนเงินค่าสอบบัญชีประจำปี พ.ศ. 2548 เป็นจำนวนเงิน 2,580,000 บาท 7.รับทราบการตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันซึ่งเกิดขึ้นในปี 2547 8.อนุมัติการนำเงินทุนสำรองไปตัดยอดขาดทุนสะสมของบริษัท ที่ประชุมมีมติอนุมัติการนำเงินทุนสำรองตามลำดับดังต่อไปนี้ ไปตัดยอดขาดทุน สะสมของบริษัท คือ 1. เงินทุนสำรองตามกฎหมาย จำนวน 14,893,450 บาท 2. ส่วนเกินมูลค่าหุ้น จำนวน 6,668,158,566 บาท 9.อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยการลดมูลค่าหุ้นเพื่อตัดยอดขาดทุน สะสมของบริษัท ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 10 บาท เป็น หุ้นละ 3 บาท ทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทลดลงจาก 9,704,045,130 บาท เป็น 2,911,213,539 บาท (ปรากฏรายละเอียดตามเอกสารแนบ) 10.อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการตัดยอด ขาดทุนสะสมของบริษัท และการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท รวมทั้งเพื่อให้ สอดคล้องกับบทบัญญัติของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดรวมทั้งให้เกิดความ เหมาะสมมากยิ่งขึ้นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท 11. อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับ การลดทุน จดทะเบียนของบริษัท โดยการลดมูลค่าหุ้นดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายวาสิลี (เบซิล) สกูร์ดอส ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ. ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น เอกสารแนบ ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เรื่อง : การโอนทุนสำรองและการลดทุนจดทะเบียนเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสม ของบริษัท 1. วัตถุประสงค์ ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทมหาชนไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นได้หากยังมีขาดทุนสะสมอยู่ปัจจุบันกลุ่มยูบีซีมีสถานะการเงินและแนวโน้มการ ดำเนินงานดีขึ้นมาก สำหรับขาดทุนสะสมที่มีอยู่เป็นผลมาจากการลงทุน ขยายธุรกิจ เพื่อให้มีฐาน สมาชิกมากจนถึงระดับที่ทำให้บริษัทถึงจุดคุ้มทุน และการที่เงินบาทอ่อน ค่าลงทำให้ต้นทุนที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้น ตลอดจนการตัดจำหน่ายค่าความ นิยมซึ่งเกิดจากการรวมกิจการ ปัจจุบันเงินบาทมีค่าค่อนข้างคงที่และสถานะการเงิน ของบริษัทดีขึ้นมาก บริษัทจึงคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต วัตถุประสงค์ในโอนทุนสำรอง และการลดทุนจดทะเบียนเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสม ของบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต 2. วิธีดำเนินการ บริษัทมีวิธีในการตัดบัญชีผลขาดทุนสะสมดังนี้ 2.1 โอนทุนสำรองเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท บาท 1. สำรองตามกฎหมาย 14,893,450 2. ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 6,668,158,566 รวม 6,683,052,016 2.2 ลดทุนจดทะเบียน และทุนที่เรียกชำระแล้วโดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 10 บาท เป็น หุ้นละ 3 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทส่วนที่เหลือ บาท จาก เป็น ลดลง ทุนจดทะเบียน 9,704,045,130 2,911,213,539 -6,792,831,591 ทุนที่เรียกชำระแล้ว7,524,748,700 2,257,424,610 -5,267,324,090 นอกจากยูบีซีแล้ว ยูบีซียังมีบริษัทย่อยหลายบริษัท ซึ่งบางบริษัทอยู่ในสถานะที่อาจ จ่ายเงินปันผลให้แก่ยูบีซีได้ โดยบริษัทย่อยที่ดำเนินการอยู่ได้แก่ บริษัท ยูบีซี เคเบิ้ล เน็ตเวอร์ค จำกัด (มหาชน) ("ยูบีซี เคเบิ้ล) บริษัท ซีนิเพล็กซ์ จำกัด ("ซีนิเพล็กซ์) และบริษัท แซทเทลไลท์ เซอร์วิส จำกัด ("เอสเอสวี). ยูบีซี เคเบิ้ล มีทุนเรือนหุ้น 5,108.6 ล้านบาท และขาดทุนสะสม 6,484.0 ล้าน บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เนื่องจากฐานสมาชิกในระบบเคเบิ้ลมี จำนวนค่อนข้างคงที่ ประกอบกับบริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนอย่างต่อเนื่องมา โดยตลอดจึงเป็นไปได้ว่าบริษัทจะยังคงขาดทุนต่อไปอีกในอนาคตและไม่อยู่ใน สถานะ ที่จะจ่ายเงินปันผลได้ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ดีหากฐานสมาชิกระบบ เคเบิ้ลเติบโตขึ้นและบริษัทเริ่มมีผลกำไรอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทจะได้มีการ พิจารณาการจ่ายเงินปันผลต่อไป ซีนิเพล็กซ์ มีทุนเรือนหุ้น 883.4 ล้านบาท และขาดทุนสะสม 985.2 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 บริษัทยังไม่อยู่ในสถานะที่จะจ่ายเงินปันผลได้ เนื่องจากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทจำกัดไม่สามารถมีมูลค่าหุ้น ที่ตราไว้ต่ำกว่าหุ้นละ 5 บาท และไม่สามารถลดทุนลงต่ำกว่าร้อยละ 25 ของ ทุนทั้งหมดได้เอสเอสวี มีทุนเรือนหุ้น 4,800 ล้านบาท และขาดทุนสะสม1,945.2 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 บริษัทมีผลการดำเนินงานกำไรต่อ เนื่องมาเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และอาจมีกำไรต่อไปอีกในอนาคต จึงอาจอยู่ใน สถานะที่จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคตอันใกล้ เพื่อให้สามารถจ่ายเงิน ปันผลได้ เอสเอสวี จะทำการลดทุนโดยการลดจำนวนหุ้นเพื่อชดเชยผลขาดทุน สะสมของบริษัท สำหรับขั้นตอนการลดทุนของเอสเอสวีจะดำเนินการแยกต่าง หากจากของยูบีซี 3. ผลกระทบต่องบการเงินของบริษัท ผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นต่องบการเงินของยูบีซี มีเพียงผล กระทบต่องบดุลของบริษัทเท่านั้น โดยจะทำให้ 1. สำรองตามกฎหมายลดลง 14,893,450 บาท 2. ส่วนเกินมูลค่าหุ้นลดลง 6,668,158,566 บาท 3. ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วลดลง 5,267,324,090 บาท 4. ขาดทุนสะสมลดลง 11,950,376,106 บาท ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเนื่องจากจำนวนหุ้นยังคง เท่าเดิม แต่จะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้เร็วขึ้นหากบริษัท ยังคงมีกำไรอย่างต่อเนื่องต่อไปผลกระทบต่องบดุลเฉพาะบริษัทและงบดุลรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เป็นดังนี้ งบดุลเฉพาะบริษัท งบดุลเฉพาะบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ก่อน หลัง เปลี่ยนแปลง บาท บาท บาท สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 2,039,293,885 2,039,293,885 - ลูกหนี้การค้า - สุทธิ 121,020,964 121,020,964 - ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 2,115,619,557 2,115,619,557 - ค่าสิทธิ์สำหรับรายการและภาพยนตร์รอตัดบัญชี - สุทธิ 81,128,747 81,128,747 - สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 30,974,733 30,974,733 - รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 4,388,037,888 4,388,037,888 - สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินลงทุนในบริษัทย่อย 3,139,065,660 3,139,065,660 - สินทรัพย์ถาวร - สุทธิ 766,432,341 766,432,341 - สินทรัพย์ภายใต้สัญญาสัมปทาน - สุทธิ 405 405 - สินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน - สุทธิ 57,117,028 57,117,028 - สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 36,139,450 36,139,450 - รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 3,998,754,884 3,998,754,884 - รวมสินทรัพย์ 8,386,792,771 8,386,792,771 - หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน หนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงินส่วนที่ถึงกำหนดชำระ ภายในหนึ่งปี 260,550,598 260,550,598 - เจ้าหนี้การค้า 186,321,794 186,321,794 - ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 1,073,467,066 1,073,467,066 - เจ้าหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 1,808,063,234 1,808,063,234 - รายได้รอตัดบัญชี 563,953,651 563,953,651 - หนี้สินหมุนเวียนอื่น 78,037,626 78,037,626 - รวมหนี้สินหมุนเวียน 3,970,393,969 3,970,393,969 - หนี้สินไม่หมุนเวียน หนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงิน 1,177,541,787 1,177,541,787 - หนี้สินภายใต้สัญญาสัมปทาน 125,813,621 125,813,621 - หนี้สินในบริษัทย่อยส่วนที่เกินทุน 266,983,699 266,983,699 - เงินมัดจำรับจากสมาชิก 549,332,516 549,332,516 - สำรองค่าผลประโยชน์ของพนักงาน 54,096,026 54,096,026 - รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 2,173,767,649 2,173,767,649 - รวมหนี้สิน 6,144,161,618 6,144,161,618 - ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนเรือนหุ้น ทุนจดทะเบียน 9,704,045,130 2,911,213,539 -6,792,831,591 จำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว (หุ้น) 752,474,870 752,474,870 - มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น 10 3.00 -7.00 ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 7,524,748,700 2,257,424,610 -5,267,324,090 ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 6,668,158,566 - -6,668,158,566 สำรองตามกฎหมาย 14,893,450 - -14,893,450 ขาดทุนสะสม -11,965,169,563 -14,793,457 11,950,376,106 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย - รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 2,242,631,153 2,242,631,153 - รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 8,386,792,771 8,386,792,771 - งบดุลรวม งบดุลรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ก่อน หลัง เปลี่ยนแปลง บาท บาท บาท สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด4,341,558,822 4,341,558,822 - ลูกหนี้การค้า - สุทธิ 224,989,834 224,989,834 - ลูกหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 23,172,945 23,172,945 - ภาษีมูลค่าเพิ่มรอเรียกคืน - สุทธิ 143,147,988 143,147,988 - ค่าสิทธิ์สำหรับรายการและภาพยนตร์รอตัดบัญชี - สุทธิ 385,032,414 385,032,414 - สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 161,446,676 161,446,676 - รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 5,279,348,679 5,279,348,679 - สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน สินทรัพย์ถาวร - สุทธิ 1,552,501,389 1,552,501,389 - สินทรัพย์ภายใต้สัญญาสัมปทาน - สุทธิ 841 841 - สินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน - สุทธิ 1,750,682,723 1,750,682,723 - ค่าสิทธิ์สำหรับรายการและภาพยนตร์รอตัดบัญชี - สุทธิ 42,801,373 42,801,373 - สินค้าคงเหลือ - สุทธิ 70,467,682 70,467,682 - สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 29,980,349 29,980,349 - รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 3,446,434,357 3,446,434,357 - รวมสินทรัพย์ 8,725,783,036 8,725,783,036 - หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน เงินกู้ระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 20,742,365 20,742,365 - หนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงินส่วนที่ถึงกำหนดชำระ ภายในหนึ่งปี 297,455,216 297,455,216 - เจ้าหนี้การค้า 581,952,866 581,952,866 - ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 1,618,374,381 1,618,374,381 - เจ้าหนี้กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 428,005,996 428,005,996 - รายได้รอตัดบัญชี 927,855,982 927,855,982 - หนี้สินหมุนเวียนอื่น 161,721,172 161,721,172 - รวมหนี้สินหมุนเวียน 4,036,107,977 4,036,107,977 - หนี้สินไม่หมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร 49,669,854 49,669,854 - หนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงิน 1,190,692,357 1,190,692,357 - หนี้สินภายใต้สัญญาสัมปทาน 304,774,451 304,774,451 - เงินมัดจำรับจากสมาชิก 724,264,459 724,264,459 - สำรองค่าผลประโยชน์ของพนักงาน 73,302,029 73,302,029 - รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 2,342,703,150 2,342,703,150 - รวมหนี้สิน 6,378,811,127 6,378,811,127 - ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนเรือนหุ้น ทุนจดทะเบียน 9,704,045,130 2,911,213,539 -6,792,831,591 จำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว (หุ้น) 752,474,870 752,474,870 - มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น 10 3.00 -7.00 ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว7,524,748,700 2,257,424,610 -5,267,324,090 ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 6,668,158,566 - -6,668,158,566 สำรองตามกฎหมาย 14,893,450 - -14,893,450 ขาดทุนสะสม -11,965,169,563 -14,793,457 11,950,376,106 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย 104,340,756 104,340,756 - รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 2,346,971,909 2,346,971,909 - รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 8,725,783,036 8,725,783,036 - หลังจากโอนทุนสำรอง และลดทุนจดทะเบียนและทุนที่เรียกชำระเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมแล้ว ยูบีซีจะมีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ลดลงเหลือ 14,793,457 บาททำให้ บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้เร็วขึ้น 4. เงินสดคงเหลือและความสามารถในการหาเงินสด ยูบีซีมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 จำนวน 2,039.3 ล้านบาท (กลุ่มยูบีซี : 4,341.6 ล้านบาท และยังคงมี เงินสด รับสุทธิจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องหากยูบีซีมีความสามารถในการหา เงินสดเช่นเดียวกับปี พ.ศ. 2547 แล้ว ในปี พ.ศ. 2548 บริษัทจะมีเงินสดรับ สุทธิจากการดำเนินงาน 1,298.3 ล้านบาท (กลุ่มยูบีซี : 1,233.9 ล้านบาท) ดังมีรายละเอียดดังนี้ ยูบีซี กลุ่มยูบีซี บาท บาท เงินสดยกมาต้นงวด 2,039,293,885 4,341,558,822 เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 1,879,210,688 2,316,543,146 หัก: จ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงิน (540,726,937) (644,485,278) เงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและอุปกรณ์รับสัญญาณ (40,227,376) (417,021,705) เงินสดรับสุทธิหลังหักเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 1,298,256,375 1,255,036,163 จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี - (21,117,381) เงินสดรับสุทธิ 1,298,256,375 1,233,918,782 ประมาณการเงินสด ณ วันปลายงวด 3,337,550,260 5,575,477,605 หัก หนี้สินระยะสั้น: เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี - (20,742,365) หนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงินส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (260,550,598) (297,455,216) เจ้าหนี้การค้า (186,321,794) (581,952,866) ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (1,073,467,066) (1,618,374,381) เงินสดสุทธิหลังการจ่ายชำระคืนหนี้สินระยะสั้น 1,817,210,803 3,056,952,778 จะเห็นได้ว่าแม้ในสถานการณ์สมมติซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นคือบริษัทต้องจ่ายคืนหนี้สินระยะสั้น ทั้งหมดแล้ว บริษัทยังคงมีเงินสดเพียงพอในการจ่ายคืนหนี้ดังกล่าวได้ทั้งหมด 5. ภาระผูกพันภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงาน และสัญญาเช่าการเงินณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ยูบีซี และกลุ่มยูบีซี มีจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่า ดำเนินงานและสัญญาเช่าการเงินดังนี้ ภาระผูกพันภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงาน ยูบีซี กลุ่มยูบีซี ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 108,839,565 899,130,765 ตั้งแต่ 1 - 5 ปี 196,365,517 2,027,406,143 มากกว่า 5 ปี 1,000,000 1,000,000 รวม 306,205,082 2,927,536,908 ภาระผูกพันภายใต้สัญญาเช่าการเงิน จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่ายตามสัญญา ยูบีซี กลุ่มยูบีซี ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 525,140,068 564,887,976 ตั้งแต่ 1 - 5 ปี 1,575,420,205 1,589,099,519 มากกว่า 5 ปี - - รวม 2,100,560,273 2,153,987,495 ยูบีซี และกลุ่มยูบีซีคาดว่าจะสามารถจ่ายชำระภาระผูกพันดังกล่าวข้างต้นได้โดยอาศัย เงินสดสุทธิที่จะได้จากการดำเนินงานในอนาคต 6. นโยบายเงินปันผล ในขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับนโยบายเงินปันผลและต้องการชะลอการ ตัดสินใจเรื่องดังกล่าวไปจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ 2548เพื่อจะได้เห็นภาพผลประกอบ การชัดเจนขึ้นว่าบริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบริษัทจะทบทวนเรื่อง นโยบาย เงินปันผลเป็นระยะเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ ชัดเจนขึ้น และจะประกาศ นโยบาย เงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป 7. สรุป การโอนทุนสำรอง และการลดทุนจดทะเบียนและทุนที่เรียกชำระแล้วโดยการลดมูลค่า หุ้นที่ตราไว้จากหุ้นละ 10 บาท เป็น หุ้นละ 3 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของ บริษัท จะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคตหากบริษัทยังคงมี ผลกำไรและมีเงินสดรับสุทธิจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทั้งนี้การดำเนิน การ ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเนื่องจากจำนวนหุ้นยังคงเท่าเดิม |