ที่ SSA-CP 018/2548
31 มีนาคม 2548
เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2548 เกี่ยวกับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่
จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ต่อกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ ครั้งที่ 4 และการงดจ่าย
เงินปันผลประจำปี 2548
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย รายละเอียดโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ
ครั้งที่ 4
ด้วยที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2548 บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ)
วันที่ 31 มีนาคม 2548 เวลา 10.00 น. ณ ห้อง Auditorium ชั้น 9 อาคารชินวัตร 3 เลขที่
1010 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 มีมติสรุปได้ดังนี้
1.รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2547 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 22 เมษายน
2547
2.อนุมัติงบดุล บัญชีกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสดประจำปี 2547 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
2547
3.อนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิเป็นเงินสำรองตามกฎหมายจำนวน 42.81 ล้านบาท และอนุมัติการ
งดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 ถึง
31 ธันวาคม 2547
4.อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2548 จากบริษัท ไพ้รซวอร์เตอร์เฮ้าส คูเปอร์ส
เอบีเอเอส จำกัด (PwC) ดังมีรายชื่อดังนี้
- นายประสัณห์ เชื้อพาณิช ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแลขที่ 3051
- น.ส.แน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3044
- นางสุวรรณี ภูริปัญโญ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3371
- นายประสิทธิ์ เยื่องศรีกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 4174
โดยกำหนดให้ผู้สอบบัญชีคนใดคนหนึ่งข้างต้นเป็นผู้ทำการตรวจสอบ แสดงความเห็น และลงนาม
ในงบการเงินของบริษัทฯ และในกรณีที่ผู้สอบบัญชีคนใดคนหนึ่งดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติงานได้ให้
PwC จัดหาผู้สอบบัญชีรับอนุญาตอื่นของ PwC ทำหน้าที่ตรวจสอบและแสดงความเห็นต่องบการเงิน
ของบริษัทแทน และกำหนดค่าสอบบัญชีรายไตรมาสและค่าสอบบัญชีประจำปี 2548 ภายในวงเงิน
2.29 ล้านบาท
5. อนุมัติการแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ กำหนดอำนาจกรรมการ
และกำหนดค่าตอบแทนกรรมการประจำปี 2548 ตามรายละเอียดดังนี้
5.1 กรรมการที่ออกตามวาระประกอบด้วย
- ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์
- นางชรินทร วงศ์ภูธร
- นางสาวจีระภา จิตรแสวง
(ตัวแทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
5.2 แต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ กลับเข้ารับตำแหน่งใหม่ ดังนี้
- ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์
- นางชรินทร วงศ์ภูธร
- นายไกรสร พรสุธี (เนื่องจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ได้มีหนังสือแจ้งบริษัทฯ ว่าขอแต่งตั้งนายไกรสร พรสุธี เข้าเป็นกรรมการแทน
นางสาวจีระภา จิตรแสวง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2548 เป็นต้น
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจึงได้มีมติอนุมัติให้นายไกรสร พรสุธี เข้าเป็นกรรมการแทน
นางสาวจีระภา จิตรแสวง)
5.3 กรรมการของบริษัทฯ ประกอบด้วย
- นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานกรรมการ
- ศจ. หิรัญ รดีศรี ประธานกรรมการตรวจสอบ
- นางนิลยา มาลากุล ณ อยุธยา กรรมการตรวจสอบ
- นางชรินทร วงศ์ภูธร กรรมการตรวจสอบ
- นายไกรสร พรสุธี กรรมการ
- นายบุญคลี ปลั่งศิริ กรรมการ
- ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ กรรมการ
- นางศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ กรรมการ
- ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ กรรมการ
5.4 กำหนดอำนาจกรรมการไว้คงเดิม ดังนี้
"นายบุญคลี ปลั่งศิริ ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ นางศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ กรรมการ
สองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัทฯ"
5.5 อนุมัติการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการสำหรับปี 2548 ภายในวงเงิน 6 ล้านบาท ทั้งนี้
ค่าตอบแทนกรรมการประกอบด้วย เงินเดือน โบนัส สวัสดิการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
และเบี้ยประชุมกรรมการ โดยกำหนดเบี้ยประชุมกรรมการดังนี้
5.5.1 การประชุมคณะกรรมการ ให้กรรมการอิสระหรือกรรมการบุคคลภายนอก ได้รับ
เบี้ยประชุมครั้งละ 25,000 บาท
5.5.2 การประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกรรมการอิสระหรือกรรมการบุคคลภายนอกที่
ดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการได้รับเบี้ยประชุมครั้งละ 30,000 บาท
และกรรมการอิสระหรือกรรมการบุคคลภายนอกที่เป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการ
ได้รับเบี้ยประชุมครั้งละ 25,000 บาท
6. อนุมัติโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการ
และพนักงานของบริษัทฯ ครั้งที่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงจูงใจ และเป็นบำเหน็จ
ตอบแทนการปฏิบัติงานของกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่
บริษัทฯ ในระยะยาว โดยโครงการนี้มีลักษณะต่อเนื่อง กล่าวคือ บริษัทฯ จะออกและเสนอขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นทุกๆ ปี มีระยะเวลาต่อเนื่องกัน 5 ปี โดยมีรายละเอียด ลักษณะ
รวมถึงสิทธิและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิที่คล้ายคลึงกันทั้ง 5 ครั้ง
โดยในครั้งที่ 4 นี้ คณะกรรมการมีมติอนุมัติการจัดสรรการออกและเสนอขาย ใบสำคัญแสดง
สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่ กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 7,562,100
หน่วย หรือคิดเป็นร้อยละ 0.86 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีราย
ละเอียดโครงการตาม เอกสารแนบ 1
ทั้งนี้ให้คณะกรรมการบริหาร หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมายมีอำนาจในการพิจารณา
กำหนดรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธินี้ ตลอดจนดำเนินการขอ
อนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีอำนาจในการดำเนินการใดๆ ตามที่จำเป็นและเกี่ยว
เนื่องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
7. อนุมัติให้จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการและพนักงานของ
บริษัทฯ ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเกินกว่าร้อยละ 5 ของใบสำคัญแสดงสิทธิที่
ขออนุญาตทั้งสิ้นของโครงการซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนแล้ว
โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้
รายชื่อ กรรมการ/พนักงาน จำนวนหน่วยร้อยละ
1. ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ 929,900 12.30
2. นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ 900,000 11.90
3. ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ 500,000 6.61
4. นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีวิชัยกุล 440,000 5.82
5. นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย 400,000 5.29
6. นายอธิป ฤทธาภรณ์ 400,000 5.29
8. อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯโดยวิธีตัดหุ้นที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน
208,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท คงเหลือทุนจดทะเบียนจำนวน 905,694,400
หุ้น คิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 4,528,472,000 บาท
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นตามขั้นตอนทางกฎหมายบริษัทฯ จึงต้องมีการลดทุนจดทะเบียนก่อนการเพิ่มทุนใน
วาระถัดไป
9. อนุมัติการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุน เป็นดังนี้
"ทุนจดทะเบียนจำนวน 4,528,472,000 บาท
แบ่งออกเป็น 905,694,400 หุ้น
มูลค่าหุ้นละ 5 บาท (ห้าบาท)
โดยแยกออกเป็นหุ้นสามัญ 905,694,400 หุ้น
หุ้นบุริมสิทธิ์ ไม่มี"
10. อนุมัติการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จากเดิม 4,528,472,000 บาท เป็น
5,606,282,500 บาท หรือจากเดิม 905,694,400 หุ้น เป็น 1,121,256,500 หุ้น โดย
การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 215,562,100 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท เป็นจำนวน
เงิน 1,077,810,500 บาท
11. อนุมัติการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุน เป็นดังนี้
"ทุนจดทะเบียนจำนวน 5,606,282,500 บาท
แบ่งออกเป็น 1,121,256,500 หุ้น
มูลค่าหุ้นละ 5 บาท (ห้าบาท)
โดยแยกออกเป็นหุ้นสามัญ 1,121,256,500 หุ้น
หุ้นบุริมสิทธิ์ ไม่มี
12.อนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 215,562,100 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยมี
รายละเอียดดังนี้
- หุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 208,000,000 หุ้น ให้เสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป
(ตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2547 ได้มีมติไว้แล้ว)
- หุ้นสามัญจำนวน 7,562,100 หุ้น ให้สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่
จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ที่ออกให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท ตามโครงการ ESOP
ครั้งที่ 4
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบริษัท หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย หรือคณะกรรมการบริหาร
มีอำนาจพิจารณากำหนดจำนวนหุ้น ราคาหุ้น ระยะเวลาจองซื้อ วิธีการ รายละเอียดการเสนอ
ขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป และรายละเอียดอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขายหุ้นดังกล่าว
รวมทั้งการขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์)
กรรมการ
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
เอกสารแนบ 1
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดโครงการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อกรรมการและพนักงาน
ของบริษัทฯ("โครงการ ESOP") ครั้งที่ 4
1.วัตถุประสงค์และความจำเป็นในการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
การกำหนดให้มีโครงการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อกรรมการและพนักงาน
ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงจูงใจและตอบแทนการปฏิบัติงานของกรรมการ
และพนักงานของบริษัทฯ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กรรมการและพนักงานดังกล่าวมีความตั้งใจ
ในการทำงานและทำงานกับบริษัทฯ ต่อไปในระยะยาว เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัทฯ
โดยโครงการจะมีลักษณะต่อเนื่อง กล่าวคือ บริษัทฯ จะออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิทุกๆ ปี
มีระยะเวลาต่อเนื่องกัน 5 ปี และใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี นับจากวันออกและ
เสนอขายในแต่ละครั้งของการเสนอขาย โดยมีรายละเอียด ลักษณะ รวมถึงสิทธิและเงื่อนไขของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่คล้ายคลึงกันทั้ง 5 ครั้ง ของการเสนอขาย โดยบริษัทฯ ได้ออกและเสนอขาย
แล้วจำนวน 3 โครงการ ดังนี้
ครั้งที่ 1 ปี 2545
บริษัทฯ ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
จำนวน 8,000,000 หน่วย และจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
จำนวน 8,000,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท) คิดเป็นประมาณร้อยละ 1.83 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
ครั้งที่ 2 ปี 2546
บริษัทฯ ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
จำนวน 4,400,100 หน่วย และจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
จำนวน 4,400,100 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท) คิดเป็นประมาณร้อยละ 1.01 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
ครั้งที่ 3 ปี 2547
บริษัทฯ ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อกรรมการและพนักงานของบริษัท
จำนวน 5,894,200 หุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
จำนวน 5,894,200 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท) คิดเป็นประมาณร้อยละ 0.67 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
สำหรับครั้งนี้เป็นการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นต่อกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
เป็นครั้งที่ 4 มีจำนวน 7,562,100 หน่วย และบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิ
ตามใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้จำนวน 7,562,100 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท คิดเป็น
ร้อยละ 0.86 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ รวมการจัดสรรหุ้นสามัญ
เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิทั้ง 4 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 4.36 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว
ทั้งหมดของบริษัทฯ
สำหรับรายละเอียดของใบสำคัญแสดงสิทธิตามโครงการครั้งที่ 4 ที่จะนำเสนอต่อที่ประชุม
ผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติ ปรากฏตามข้อมูลด้านล่างนี้ นอกจากนี้ เมื่อมีการใช้สิทธิตามใบสำคัญ
แสดงสิทธิ บริษัทฯ คาดว่าจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ต่อไป
2.รายละเอียดเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้
ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญชนิดระบุชื่อผู้ถือและ
โอนเปลี่ยนมือไม่ได้ เว้นแต่โอนทางมรดก หรือแก่ผู้รับผล
ประโยชน์ตามข้อ 3.4.3 (ซึ่งต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า
"ใบสำคัญแสดงสิทธิ")
จำนวนที่เสนอขายครั้งนี้ 7,562,100 หน่วย
ราคาเสนอขายต่อหน่วย หน่วยละ 0 บาท (ศูนย์บาท)
ระยะเวลาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ เสนอขายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุญาต
จากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ ไม่เกิน 5 ปีนับจากวันที่ได้ออกและเสนอขาย
จำนวนหุ้นที่จัดสรรเพื่อ 7,562,100 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท คิดเป็น
รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ ร้อยละ 0.86 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ
บริษัทฯ
วิธีการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ จัดสรรให้แก่กรรมการและ พนักงานของบริษัทฯ โดยไม่
ผ่านผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์
อัตราการใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น
ราคาการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้น ราคาปิดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักใน
ช่วงระยะเวลา 30 วัน ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเท่ากับ
18.14 บาทต่อหุ้น
วันออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ คณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ จะเป็นผู้กำหนดวันออก
และเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้
ระยะเวลาการใช้สิทธิ กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ สามารถใช้สิทธิที่จะซื้อ
หุ้นสามัญของบริษัทฯได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
ปีที่ 1 กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ สามารถใช้สิทธิ
ซื้อหุ้นสามัญได้ในจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ส่วนของใบสำคัญ
แสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการ และพนักงานของบริษัทฯ
แต่ละคนได้รับจัดสรรจากบริษัทฯ ทั้งนี้ กรรมการและ
พนักงานของบริษัทฯ จะสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อ
ครบระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ออกและเสนอ
ขายใบสำคัญแสดงสิทธิ จนกว่าจะครบอายุของใบสำคัญ
แสดงสิทธิ
ทั้งนี้ หากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิจะทำให้เกิด
เศษหุ้นที่ไม่ถึงจำนวนเต็มของหน่วย การซื้อขายหุ้น
(Board Lot) บนกระดานหลักในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย ให้ปัดรวมไปใช้สิทธิในการใช้สิทธิปีถัดไป
ปีที่ 2 กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ สามารถใช้สิทธิ
ซื้อหุ้นสามัญได้อีกในจำนวนไม่เกิน 1 ใน 3 ส่วนของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและพนักงานของ
บริษัทฯ แต่ละคนได้รับจัดสรรจากบริษัทฯ ทั้งนี้ กรรมการ
และพนักงานของบริษัทฯ จะสามารถใช้สิทธิดังกล่าว
ได้ก็ต่อเมื่อครบระยะเวลา 2 ปีนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ออก
และเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ จนกว่าจะครบอายุของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทั้งนี้ หากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิจะทำให้เกิด
เศษหุ้นที่ไม่ถึงจำนวนเต็มของหน่วย การซื้อขายหุ้น
(Board Lot) บนกระดานหลักในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย ให้ปัดรวมไปใช้สิทธิในการใช้สิทธิปีถัดไป
ปีที่ 3 กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ สามารถใช้สิทธิ
ซื้อหุ้นสามัญตามสิทธิของตนในส่วนที่เหลือทั้งหมดได้เมื่อครบ
ระยะเวลา 3 ปีนับจากวันที่บริษัทฯ ได้ออกและเสนอขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิ จนกว่าจะครบอายุของใบสำคัญแสดง
สิทธิ
ทั้งนี้ หากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิจะทำให้เกิด
เศษหุ้นที่ไม่ถึงจำนวนเต็มของหน่วยการซื้อขายหุ้น
(Board Lot) บนกระดานหลักในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย ให้ปัดรวมไปใช้สิทธิในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
สิทธิและผลประโยชน์อื่นนอกเหนือจากสิทธิ -ไม่มี-
และผลประโยชน์ที่พึงมีและ
พึงได้จากหุ้นสามัญตามปกติ
3.หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ ในการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
3.1 ระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ให้ผู้ทรงสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
สามารถแสดงความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้ ระหว่างเวลา
09.00 น. ถึง 16.00 น. ภายใน 5 วันทำการก่อนวันกำหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้งตลอดระยะ
เวลาการใช้สิทธิ เว้นแต่ การแสดงความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ครั้งสุดท้าย กำหนดให้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิในช่วงระยะเวลา 15 วันก่อนวันกำหนด
การใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญในแต่ละครั้ง จำนวนหุ้นที่จะใช้สิทธิซื้อนั้นจะต้องเป็นจำนวนเต็ม
ของหน่วยการซื้อขายหุ้นบนกระดานหลักในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยกเว้นการ
ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
3.2 วันกำหนดการใช้สิทธิ
ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึงเวลา 16.00 น. ของวันทำการสุดท้ายของทุกเดือนตลอดอายุของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิ ในกรณีการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายให้ใช้สิทธิได้ภายใน 5 วันทำการก่อน
วันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิจะหมดอายุ
3.3 คุณสมบัติของกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ ที่มีสิทธิจะซื้อหลักทรัพย์ที่ออก
3.3.1 เป็นกรรมการหรือพนักงานของบริษัทฯ ที่มีอายุการทำงานขั้นต่ำ 1 ปี และไม่เป็น
พนักงานที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทร่วมทุนให้มาปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทฯ ซึ่งมีวาระในการ
ปฏิบัติงาน (Term) เป็นการชั่วคราวตามช่วงระยะเวลาที่ถูกกำหนดมา
3.3.2 เป็นกรรมการหรือพนักงานของบริษัทฯ ที่ได้รับการคัดเลือกซึ่งทำประโยชน์ให้แก่บริษัทฯ
(แล้วแต่กรณี)
3.3.3 กรณียกเว้น ที่ไม่เป็นตามข้อ 3.3.1 และ 3.3.2 ให้นำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการ
บริหารของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาให้เป็นกรณีพิเศษ
3.3.4 จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ ที่คณะกรรมการบริษัทฯ
กำหนดให้แต่ละรายได้รับไม่จำเป็นต้องมีจำนวนเท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง
ประสบการณ์ อายุงาน ผลการปฏิบัติงาน และศักยภาพรวมถึงประโยชน์ที่ทำให้แก่บริษัทฯ
3.4 ข้อผูกพันระหว่างบริษัท กับกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ ในการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ
3.4.1 กรณีบุคคลที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิพ้นสภาพจากการเป็นกรรมการ
หรือพนักงาน ของบริษัทฯ เนื่องจากการเกษียณอายุตามระเบียบของบริษัทฯ
หรือครบวาระในการดำรงตำแหน่ง แล้วแต่กรณี ให้กรรมการหรือพนักงานของบริษัทฯ
รายนั้น ยังคงมีสิทธิที่จะใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้จนครบอายุของใบสำคัญ
แสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรนั้น
3.4.2 กรณีที่บุคคลที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิพ้นสภาพจากการเป็น
กรรมการหรือพนักงาน ของบริษัทฯ เนื่องจากมีการโอนย้ายงานตามคำสั่งของบริษัทฯ
ให้กรรมการหรือพนักงานของบริษัทฯ รายนั้น ยังคงมีสิทธิที่จะใช้สิทธิตามใบสำคัญ
แสดงสิทธิได้จนครบอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรนั้น
3.4.3 กรณีที่บุคคลที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิพ้นสภาพจากการเป็นกรรมการ
หรือพนักงาน ของบริษัทฯ เนื่องจากถึงแก่กรรม สาบสูญ ทุพพลภาพ หรือไร้สมรรถภาพ
จนไม่สามารถจัดการงานของตนเองได้ ให้ผู้จัดการมรดก หรือผู้รับประโยชน์ของกรรมการ
หรือพนักงานของบริษัทฯ ดังกล่าว แล้วแต่กรณี สามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ของผู้ถึงแก่กรรม ผู้สาบสูญ ผู้ทุพพลภาพ หรือผู้ไร้สมรรถภาพดังกล่าวได้จนครบอายุ
ของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรนั้น
3.4.4 กรณีที่บุคคลที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิพ้นสภาพจากการเป็นกรรมการ
หรือพนักงาน ของบริษัทฯ ด้วยเหตุอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 3.4.1, 3.4.2 หรือ
3.4.3 ข้างต้น ให้กรรมการหรือพนักงานของบริษัทฯ รายนั้นต้องใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ
ตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ตนมีเฉพาะในส่วนที่ครบกำหนดให้ใช้สิทธิได้แล้วเท่านั้น โดยจะต้อง
ใช้สิทธิให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนับจากวันที่พ้นสภาพการเป็นกรรมการหรือพนักงานของ
บริษัทฯ ดังกล่าว หรือมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้พิจารณาการจัดสรรสิทธิตาม
ความเหมาะสม
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่มีการใช้สิทธิ ในกรณีที่กรรมการหรือพนักงานไม่สามารถใช้สิทธิที่
เหลืออันเนื่องมาจากเหตุตามข้อ 3.4.4 ให้กรรมการหรือพนักงานจัดส่งใบสำคัญแสดง
สิทธิดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ เพื่อยกเลิก
3.5 กรณีใช้สิทธิไม่ครบตามใบสำคัญแสดงสิทธิ หากกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
ไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใช้สิทธิไม่ครบถ้วน และใบสำคัญแสดงสิทธิ
ได้ครบกำหนดอายุลง ให้ถือว่ากรรมการและ พนักงานของบริษัทฯ สละสิทธิการใช้สิทธิตาม
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เหลือ โดยกรรมการและพนักงานของบริษัทฯดังกล่าวไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ
จากบริษัทฯ
3.6 ความช่วยเหลือจากบริษัทฯ ในการจัดหาแหล่งเงินทุนแก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
- ไม่มี -
3.7 การปรับสิทธิ บริษัทฯ อาจจะต้องสำรองหุ้นสามัญเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการ
ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามที่ได้มีการกำหนดโดยประกาศ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการออกและเสนอขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
กรณีที่มีการปรับสิทธิที่จะต้องมีการจัดสรรหุ้นเพิ่มเติมเกินกว่าจำนวนหุ้นที่รองรับในการ
ปรับสิทธิในครั้งนั้นๆ ให้บริษัทฯ นำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มเติม
ในครั้งต่อไป หากระยะเวลาที่อายุใบสำคัญแสดงสิทธิคงเหลือน้อยกว่าการประชุมผู้ถือหุ้น
ที่จะมีขึ้นในอนาคตให้บริษัทฯ ดำเนินการนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็วก่อน
ใบสำคัญแสดงสิทธิจะหมดอายุลง
4. ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้นเนื่องจากการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่กรรมการและพนักงาน
ปรึกษาของบริษัทฯ ในครั้งนี้
4.1 ผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น (Price Dilution) เมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นของกรรมการและ
พนักงานของบริษัทฯ
การกำหนดราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้กำหนดจากราคาปิดของหุ้นสามัญ
ของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในช่วง
ระยะเวลา 30 วัน ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งราคาดังกล่าวใกล้เคียงกับราคาตลาด ดังนั้น
การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อราคาของหุ้น
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น เมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นของกรรมการและ
พนักงานของบริษัทฯ จะขึ้นอยู่กับราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ณ วันที่หุ้นเพิ่มทุน
ที่เกิดจากการใช้สิทธิของกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ เข้าทำการซื้อขายใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
4.2 ผลกระทบของผู้ถือหุ้นเดิมสำหรับการลดลงของสัดส่วนความเป็นเจ้าของหรือสิทธิ
ออกเสียงของผู้ถือหุ้นเดิม (Control Dilution)
ในกรณีที่มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิของกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ
ทั้งหมดโดยคำนวณจากทุนที่เรียกชำระแล้วในปัจจุบัน
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด = 877,193,600 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท)
จำนวนหุ้นทั้งหมดที่เกิดจากการใช้สิทธิ = 7,562,100 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
รวมจำนวนหุ้นหลังการใช้สิทธิ = 884,755,700 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท)
สัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิมหลังการใช้สิทธิ = ร้อยละ 99.14
4.3 จำนวนหุ้นที่จะจัดไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดสรรให้แก่กรรมการ
และพนักงานของบริษัทฯ จำนวนไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ณ วันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด = 877,193,600 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท)
จำนวนหุ้นที่จะจัดไว้เพื่อรองรับการ = 7,562,100 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
ใช้สิทธิตามที่จัดสรรให้กรรมการและ
พนักงานของบริษัทฯ
คิดเป็นสัดส่วนกับจำนวนหุ้นที่ = ร้อยละ 0.86 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
4.4 รายชื่อกรรมการ (ของบริษัทหรือบริษัทย่อย) ทุกท่านที่มีสิทธิจะได้รับการจัดสรร
ใบสำคัญแสดงสิทธิ และพนักงานที่มีสิทธิจะได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเกินกว่า
ร้อยละห้าของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกและเสนอขายในครั้งนี้
รายชื่อ จำนวน (หน่วย) % ของESOPที่จัดสรร
1.นาย ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ 929,900 12.30
กรรมการและประธานกรรมการบริหาร
2.นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ 900,000 11.90
กรรมการผู้จัดการ โครงการ IPSTAR
และกรรมการในบริษัทย่อย
3.นางสาวนงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ 500,000 6.61
กรรมการ กรรมการผู้อำนวยการ
และกรรมการบริหาร
4.นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีวิชัยกุล 440,000 5.82
รองกรรมการผู้อำนวยการ
สายงานการตลาดและงานขาย
5.นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย 400,000 5.29
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ
ส่วนงานการขาย ไทย อินโดไชน่า และจีน
6.นายอธิป ฤทธาภรณ์ 400,000 5.29
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ลาว เทเลคอมฯ
7.นายธนฑิต เจริญจันทร์ 250,000 3.31
ผู้ช่วยผู้อำนวยการส่วนงานการเงินและบัญชี
และกรรมการในบริษัทย่อย
8.นายอาวุธ พลอยส่องแสง 140,800 1.86
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ
ส่วนงานพัฒนาธุรกิจและกรรมการในบริษัทย่อย
9.นายกมลมิตร วุฒิจำนงค์ 105,900 1.40
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ
ส่วนงานกฎหมายและกรรมการในบริษัทย่อย
10.นายคมสัน เสรีภาพงษ์ 70,000 0.93
กรรมการบริษัทย่อย
11.นายจิโรจน์ ศรีนามวงษ์ 70,000 0.93
กรรมการบริษัทย่อย
ทั้งนี้ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกและเสนอขายในครั้งนี้รวมทั้งสิ้นจำนวนจำนวน
7,562,100 หน่วย
4.5 หุ้นสามัญที่ออกตามการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้ จะมีสิทธิและสภาพเท่าเทียม
กับหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่ออกไปก่อนหน้านี้ทุกประการ
5. ลักษณะและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกและเสนอขายต่อกรรมการและพนักงานของบริษัทฯ จะอยู่ภายใต้
หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 36/2544 เรื่อง
การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อกรรมการหรือพนักงาน ฉบับลงวันที่ 19 ตุลาคม 2544
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรหรือกฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวข้องในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิเมื่อพ้นวันกำหนดการใช้สิทธิ
ครั้งสุดท้าย และมีใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้มีการใช้สิทธิให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
หมดสภาพลง และไม่สามารถนำมาใช้สิทธิได้อีกต่อไปไม่ว่ากรณีใด ๆ
6. สิทธิของผู้ถือหุ้นในการคัดค้านการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการหรือพนักงาน
ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 36/2544 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2544
ตามข้อ 14 แห่งประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 36/2544 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2544
การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการหรือพนักงานต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิ
ออกเสียงและต้องไม่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนเสียงทั้งหมดของ
ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมคัดค้านการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
ในกรณีที่จะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิต่อกรรมการหรือพนักงานรายใดเกินกว่าร้อยละห้า
ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้ ตามข้อ 15(2) แห่งประกาศ
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ดังกล่าวข้างต้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต้องมีมติอนุมัติการเสนอ
ขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวให้แก่กรรมการหรือพนักงานเป็นรายบุคคล โดยมีมติอนุมัติ
เป็นรายบุคคล และจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของ
ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงและต้องไม่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละห้า
ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมคัดค้านมติดังกล่าว
7. รายชื่อกรรมการและพนักงานที่มีสิทธิจะได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเกินกว่า
ร้อยละห้าของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่ขออนุญาตในครั้งนี้
รายชื่อ จำนวน (หน่วย) % ของ ESOP
ที่จัดสรร
1. ดร. ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ 929,900 12.30
กรรมการและประธานกรรมการบริหาร
จำนวนครั้งของกรรมการในการเข้าร่วมประชุมและขาดประชุมในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
มีการประชุม 5 ครั้ง เข้าร่วมประชุม 5 ครั้ง ขาดประชุม - ครั้ง
2. นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ 900,000 11.90
กรรมการผู้จัดการ โครงการ IPSTAR และกรรมการในบริษัทย่อย
3. ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ 500,000 6.61
กรรมการ กรรมการผู้อำนวยการ และกรรมการบริหาร
จำนวนครั้งของกรรมการในการเข้าร่วมประชุมและขาดประชุมในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
มีการประชุม 5 ครั้ง เข้าร่วมประชุม 5 ครั้ง ขาดประชุม - ครั้ง
4. นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีวิชัยกุล 440,000 5.82
รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาดและงานขาย
5. นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย 400,000 5.29
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการขาย ไทย อินโดไชน่า และจีน
6. นายอธิป ฤทธาภรณ์ 400,000 5.29
ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ลาว เทเลคอมฯ
ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทน
รายละเอียดปรากฏตามเอกสารความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนสำหรับ
โครงการ ESOP ตามที่แนบมาด้วยนี้
ทั้งนี้ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกและเสนอขายในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 7,562,100 หน่วย
และเนื่องจากราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้ถูกกำหนดให้เป็นราคาปิดของหุ้น
ของบริษัทฯ ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
ในช่วงระยะเวลา 30 วัน ก่อนวันประชุมผู้ถือหุ้น บุคคลดังกล่าวตามข้อ 7.1 - 7.6
จึงมิได้มีผลประโยชน์เมื่อคำนวณเป็นตัวเงิน เมื่อมีการคำนวณจากผลต่างของ
ราคาเสนอขาย (รวมราคาการใช้สิทธิ) และราคาตลาด
ความเห็นของคณะอนุกรรมการกำหนดค่าตอบแทน - โครงการ ESOP
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548
เรียน คณะกรรมการบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
คณะอนุกรรมการกำหนดค่าตอบแทน-โครงการ ESOP ประกอบด้วย นายพารณ อิศรเสนา ณ
อยุธยาเป็นประธานคณะอนุกรรมการ นายบุญคลี ปลั่งศิริ และ นางชรินทร วงศ์ภูธร เป็นกรรมการ
โดยได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ให้ทำหน้าที่พิจารณา
ให้ความเห็นชอบการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเสนอขายต่อกรรมการ พนักงาน
ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ที่ได้รับจัดสรรจำนวนร้อยละ 5 ขึ้นไปของโครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้ปฏิบัติ
เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 36/2544
เรื่อง การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อกรรมการ หรือพนักงาน ฉบับลงวันที่ 19 ตุลาคม 2544
คณะอนุกรรมการกำหนดค่าตอบแทน - โครงการ ESOP ได้ประชุมพิจารณาและมีมติเป็น
เอกฉันท์เห็นชอบให้จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ เสนอขายแก่กรรมการและ
พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในจำนวนเกินกว่าร้อยละ 5 ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมด
ที่ออกภายใต้โครงการ ESOP - โครงการ 4 ดังมีรายชื่อต่อไปนี้
ที่ รายชื่อกรรมการ/พนักงาน จำนวนใบสำคัญ คิดเป็นร้อยละ
แสดงสิทธิที่ได้รับ ของโครงการ
1 ดร. ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ 929,900 หน่วย 12.30
2 นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ 900,000 หน่วย 11.90
3 ดร. นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ 500,000 หน่วย 6.61
4 นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีวิชัยกุล 440,000 หน่วย 5.82
5 นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย 400,000 หน่วย 5.29
6 นายอธิป ฤทธาภรณ์ 400,000 หน่วย 5.29
เหตุผล ความจำเป็นและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ
คณะอนุกรรมการกำหนดค่าตอบแทน-โครงการ ESOP ได้พิจารณาเห็นว่ากรรมการ/พนักงาน
ทั้ง 6 ท่านดังกล่าวข้างต้นล้วนเป็นบุคคลผู้มีความรู้และความสามารถสูง มีความรับผิดชอบสูง
มีผลงานที่ดีเยี่ยมมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความจงรักภักดีต่อองค์กร และปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์
สูงสุดให้แก่บริษัทฯ ด้วยดีมาโดยตลอด การจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะเป็นแรงจูงใจ
ให้การปฏิบัติงานของกรรมการและพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจะส่งผลให้บริษัทมีผล
ประกอบการที่ดีตามมาด้วยในที่สุด ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งงาน วันเริ่มงานกับบริษัทฯ
และประโยชน์ที่กรรมการ/พนักงานทั้ง 6 ท่าน ได้ทำให้แก่บริษัทปรากฏตามเอกสารแนบท้าย
ความเห็นฉบับนี้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
( นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา )
ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดค่าตอบแทน
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
|