สารสนเทศรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทเงินทุนสินเอเซีย จำกัด (มหาชน)
1. สารสนเทศรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทเงินทุนสินเอเซีย จำกัด (มหาชน)
(1) วันเดือนปี ที่มีการตกลงเข้าทำรายการ และคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง
(1.1) วันเดือนปีที่มีการตกลงเข้าทำรายการ
บริษัทจะทำรายการซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทเงินทุน บัวหลวง จำกัด (บัวหลวง) จากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ภายหลังจากบริษัทได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2548
(1.2) คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง
ผู้ซื้อ บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน)
ผู้ขาย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 27.49
(2) คำอธิบายโดยทั่วไปเกี่ยวกับลักษณะของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการตกลงเข้าทำรายการ
และในกรณีที่สินทรัพย์ดังกล่าว
เป็นหลักทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนให้ระบุชื่อ ประเภทกิจการ ลักษณะการดำเนินธุรกิจ สรุปฐานะการเงินและผลการ
ดำเนินงาน ตลอดจนงบการเงินของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ดังกล่าว
เนื่องจากบริษัทได้ยื่นขอปรับสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์ (Universal Bank) ต่อกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่ง
ประเทศไทย เพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยเสนอแผนการควบรวมกิจการกับบัวหลวง
ด้วยวิธีการซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดของบัวหลวง จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
และผู้ถือหุ้นเดิมรายอื่น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบบริษัทจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม
2547 และผ่อนผันให้บริษัทซื้อหรือมีหุ้นบัวหลวง ในอัตราร้อยละ 100
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์
ดังนั้น บริษัทจะดำเนินการในขั้นตอนของการซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดของบัวหลวง จากธนาคาร
กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นเดิมรายอื่นรวมจำนวนทั้งสิ้น 70 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 20 บาท
คิดเป็นมูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่บริษัทได้เสนอไว้
เมื่อดำเนินการซื้อหุ้นแล้วเสร็จ บริษัทจะรับโอนสินทรัพย์ หนี้สินของบัวหลวงมายังบริษัท โดยบัวหลวงจะคืนใบ
อนุญาตการประกอบธุรกิจเงินทุนให้แก่กระทรวงการคลัง และจดทะเบียนเลิกกิจการ
เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตจัดตั้งธนาคาร
พาณิชย์ ลงวันที่ 23 มกราคม 2547 ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่บริษัท
ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ หรือภายในวันที่ 23 ธันวาคม 2548
การซื้อหุ้นของ บัวหลวง จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ดังกล่าวข้างต้น เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
ประเภทรายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการ ตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546
โดยมีมูลค่าของรายการคิดเป็นร้อยละ 14.17 ของมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อย
ตามงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบแล้ว
โดยที่มูลค่าของรายการดังกล่าวมากกว่าร้อยละ 3 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัท
และบริษัทย่อย ซึ่งบริษัทจะต้องดำเนินการเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์โดยมีสารสนเทศตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
และขออนุมัติการทำรายการดังกล่าวจากคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทด้วย
อนึ่ง มูลค่าของรายการดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้องดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.
2547
รายละเอียดของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง
ชื่อหลักทรัพย์ หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทเงินทุนบัวหลวง จำกัด
(หุ้นบุริมสิทธิ มีสิทธิในการรับเงินปันผลสูงกว่าหุ้นสามัญในอัตราร้อยละ 10 เป็น
ระยะเวลา 10 ปี)
ประเภทกิจการ บริษัทเงินทุน
ลักษณะการดำเนินธุรกิจ ประกอบธุรกิจเงินทุน
ทุนจดทะเบียน/ทุนชำระแล้ว ทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 700 ล้านบาท ชำระเต็มมูลค่า แบ่งเป็นดังนี้
- หุ้นสามัญ 69,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม
696 ล้านบาท
- หุ้นบุริมสิทธิ 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม 4 ล้านบาท
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 มีนาคม 2547
หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ รวม ร้อยละ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 67,702,416 80,000 67,782,416 96.83
ผู้ถือหุ้นเดิมรายอื่น 1,897,584 320,000 2,217,584 3.17
รวม 69,600,000 400,000 70,000,000 100.00
รายชื่อคณะกรรมการ
นายธรรมนูญ เลากัยกุล ประธานกรรมการ
นายวันชัย ลีละศิธร กรรมการ
นายกิตติ ติรวิกานต์ กรรมการ
นางมุกดา หงษ์จินดาเกศ กรรมการ
นายชอง โท กรรมการ
นายบรรลือ ฉันทาดิศัย กรรมการ
นางปฏิมา ชวลิต กรรมการ
นายปิยะ ซอโสตถิกุล กรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ
สรุปฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบัวหลวง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 และ 31 ธันวาคม 2546
(ตรวจสอบแล้ว)
หน่วย : ล้านบาท
รายการ 2547 2546
เงินให้กู้ยืม ลูกหนี้ และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ 3,706.61 2,731.65
สินทรัพย์รวม 4,335.52 3,576.73
เงินกู้ยืมและเงินรับฝากจากประชาชน 3,398.36 2,651.29
หนี้สินรวม 3,447.43 2,683.17
กำไรสะสม 188.23 194.73
ส่วนของผู้ถือหุ้น 888.09 893.56
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 154.28 107.23
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (14.44) 149.36
ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย 82.39 79.20
กำไรสุทธิ (6.50) 175.94
กำไรต่อหุ้น (บาท) (0.09) 2.53
(3) มูลค่ารวมและเกณฑ์ที่ใช้กำหนดมูลค่ารวมของรายการ มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน วิธีการชำระเป็นเงินสด
หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย งวดการชำระของสิ่งตอบแทน ดอกเบี้ยและ
หลักประกัน (ถ้ามี)
ในการซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบัวหลวงทั้งหมดในครั้งนี้ บริษัทได้ว่าจ้างให้บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย ที่ปรึกษา
ธุรกิจ จำกัด เข้ามาทำ Due Diligence (ด้าน Legal และ Financial)
และการประเมินมูลค่ากิจการโดยพิจารณาจากวิธีอัตราส่วน
ราคาต่อมูลค่าตามบัญชี (Price to Book Value) มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (Net Asset Value)
และอัตราผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment ) และบริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย ที่ปรึกษาธุรกิจ
จำกัดได้ให้ความเห็นถึงราคาที่เหมาะสมในช่วง 1,237-1,498 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.67-21.40 บาทต่อหุ้น
บริษัทได้กำหนดราคาที่ต้องชำระให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบัวหลวงเท่ากับ 1,400 ล้านบาท หรือในราคาหุ้นละ 20 บาท
โดยการซื้อหุ้นดังกล่าวบริษัทจะชำระเงินค่าหุ้นทั้งหมดเป็นเงินสด ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2548
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 ส่วนของผู้ถือหุ้นของบัวหลวง เท่ากับ 888.09 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าตามบัญชีหุ้นละ
12.69 บาท
(4) ชื่อของบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน รวมทั้งตำแหน่งที่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันดำรงอยู่ในบริษัทจดทะเบียน
หรือสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน
ชื่อ การถือหุ้นในบริษัท (ร้อยละ)
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 27.49
นายชาตรี โสภณพนิช 0.39
(5) ลักษณะและขอบเขตของส่วนได้เสียของบุคคลที่เกี่ยวโยงกันในการตกลงเข้าทำรายการในรายการที่
เกี่ยวโยงกันนั้น
ณ วันที่ 14 มีนาคม 2548 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเงินทุนสินเอเซีย จำกัด
(มหาชน) ร้อยละ 27.49 และในบริษัทเงินทุน บัวหลวง จำกัด ร้อยละ 96.83
(6) แหล่งเงินทุนที่ใช้ และความเพียงพอของเงินทุนหมุนเวียน
ใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
(7) กรรมการที่มีส่วนได้เสียและ/หรือกรรมการที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันไม่เข้าประชุมและไม่มีสิทธิออกเสียง
ในที่ประชุม
ชื่อ ตำแหน่งในบริษัท ตำแหน่งในธนาคารกรุงเทพ
นายปณิต ตุลย์วัฒนจิต กรรมการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่
(8) ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2548 ซึ่งไม่มีกรรมการที่มีส่วนได้เสียหรือเป็น
บุคคลที่เกี่ยวโยงกันเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในวาระดังกล่าว ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
การทำรายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นการดำเนินการตามแผนจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ซึ่งได้รับความ
เห็นชอบจากกระทรวงการคลัง เป็นผลให้บริษัทสามารถให้บริการทางการเงินได้อย่างครบวงจร
ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันประกอบกับราคาหุ้นบัวหลวงอยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม
(9) ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบและ/หรือกรรมการของบริษัทที่แตกต่างจากความเห็นของคณะ
กรรมการบริษัท
คณะกรรมการตรวจสอบไม่มีความเห็นแตกต่างจากคณะกรรมการของบริษัท
ในการนี้ บริษัทจะปฏิบัติให้เป็นตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ดำเนินการแต่งตั้งบริษัท
แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลและประโยชน์
ของรายการต่อบริษัท รวมถึงความเป็นธรรมของราคา และเงื่อนไขของรายการที่เกี่ยวโยงกันดังกล่าว ทั้งนี้
บริษัทกำหนดจะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 เมษายน 2548 เพื่อขออนุมัติการตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
นี้ โดยจะส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน และจะจัดส่งหนังสือนัดประชุมให้ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยพิจารณาความเพียงพอของสารสนเทศก่อนส่งให้ผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 5 วันทำการ
- 7 มีนาคม 2548 ส่งร่างหนังสือนัดประชุมให้ตลาดหลักทรัพย์และสำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณา
ความเพียงพอของสารสนเทศ
- 17 มีนาคม 2548 ส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้ถือหุ้น
อนึ่ง มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการอนุมัติรายการที่เกี่ยวโยงกันข้างต้น ต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของ
จำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย
2. สารสนเทศเกี่ยวกับบริษัท
2.1 ข้อมูลบริษัทและการดำเนินธุรกิจโดยสรุป
บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) เลขทะเบียน บมจ. 99
ชั้น 12-13 เอ็มโพเรี่ยม ทาวเวอร์ 622 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย
กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ : 0 - 2663- 9999 โทรสาร : 0 - 2663- 9888
Website : http://www.acl.co.th
ทุนของบริษัท
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 16,059,495,270 บาท เรียกชำระแล้ว
15,904,529,450 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 512,716,072 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 1,077,736,873 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 10 บาท
(รายละเอียดโปรดดูหมายเหตุประกอบงบการเงิน 1.8 ทุนเรือนหุ้น ในรายงานประจำปี 2547)
ลักษณะการประกอบธุรกิจ
ปัจจุบัน บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจด้านเงินทุน
และได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ การรับฝากเงินแบบ
ออมทรัพย์ และฝากประจำโดยมีสมุดคู่ฝาก และสามารถขยายกิจการโดยมีสำนักงานสาขาได้จำนวน 10 สาขา
การให้บริการทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันมีความหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยลูกค้าที่
เป็นธุรกิจรายใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ลูกค้ารายย่อย และลูกค้าสถาบันการเงินอื่นๆ
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2547 กระทรวงการคลังได้มีประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขออนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ตามประกาศ
กระทรวงการคลังฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2547 ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547
กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบให้บริษัทดำเนินการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ (Universal Bank)
ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินของกระทรวงการคลัง ในปัจจุบัน บริษัท
อยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมด้านบุคลากร ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตลอดจนการเพิ่มช่องทางการให้บริการด้วยการเปิดสาขา รวมทั้งการสร้างแนวร่วมในการดำเนินธุรกิจ
เพื่อขยายและ/หรือปรับเปลี่ยนลักษณะการให้บริการให้เป็นไปตามรูปแบบของการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์
ซึ่งสามารถให้บริการทั้งทางด้านการเงินและการให้บริการด้านอื่นๆ แก่ลูกค้าอย่างครบวงจรตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปฏิบัติตามเงื่อนไขของกระทรวงการคลังให้ครบถ้วนเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบการ
ธนาคารพาณิชย์ภายใน 1 ปี
การประกอบธุรกิจของแต่ละธุรกิจ
ธุรกิจเงินทุน
(1) ลักษณะบริการ
บริษัทได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบกิจการเงินทุนตามใบอนุญาตเลขที่ 6/2516 ซึ่ง
กำหนดให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจหลักได้ดังนี้
1) กิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์
2) กิจการเงินทุนเพื่อการพัฒนา
3) กิจการเงินทุนเพื่อการจำหน่ายและการบริโภค
4) กิจการเงินทุนเพื่อการเคหะ
นอกเหนือจากใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเงินทุนตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทยังได้รับใบอนุญาตจาก
กระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2542 ให้ประกอบธุรกิจ เกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศและ
ธุรกิจเกี่ยวกับการเปิดบัญชีรับฝากเงินแบบออมทรัพย์และประจำโดยใช้สมุดคู่ฝาก ซึ่งในการดำเนินธุรกิจ
ต่างๆ ของบริษัทนั้น ได้ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ
เครดิตฟองซิเอร์ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด และ
ประกาศต่างๆ ของหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งกำกับและควบคุมการ
ประกอบกิจการของสถาบันการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลัก
ทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
การให้บริการทางการเงินของบริษัทในปัจจุบันมีความหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งประกอบ
ด้วยลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ลูกค้ารายย่อย และลูกค้าสถาบัน
การเงินอื่นๆ การให้บริการทางการเงินของบริษัทที่สำคัญ ประกอบด้วยบริการด้านเงินฝาก ด้านสินเชื่อ และ
ธุรกรรมเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ ซึ่งมีรายละเอียดของรูปแบบการให้บริการดังนี้
1. บริการด้านเงินฝาก
บริษัทให้บริการรับฝากเงินจากลูกค้าทั่วไป ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล รวมถึงสถาบันและ
องค์กรต่างๆ ในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งมีทั้งประเภท เมื่อทวงถาม และประเภทมีกำหนดระยะเวลา
โดยสามารถเลือกรับดอกเบี้ยเป็นงวดทั้งแบบรายเดือน ราย 3 เดือนหรือทุกครึ่งปี นอกจากนั้นบริษัทยัง
สามารถรับฝากเงินในรูปของสมุดคู่ฝากแบบออมทรัพย์และแบบประจำ ทั้งที่เป็นเงินบาทและสกุลเงิน
ตราต่างประเทศ โดยได้เริ่มให้บริการรับฝากเงินประเภทออมทรัพย์โดยใช้สมุดคู่ฝากตั้งแต่เดือนมกราคม 2544
2. บริการด้านสินเชื่อ
บริษัทมีบริการทางด้านสินเชื่อที่หลากหลายและครอบคลุมทุกประเภท เพื่อตอบสนองตามความ
ต้องการของลูกค้า อาทิเช่น
(1) สินเชื่อเพื่อธุรกิจทั่วไปในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย
- เงินกู้ประเภทวงเงินหมุนเวียน (โดยใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋วแลกเงิน และการรับซื้อลดเช็ค)
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนสำหรับการประกอบธุรกิจ
- เงินกู้แบบมีระยะเวลาทั้งในรูปของเงินกู้ระยะกลางและเงินกู้ระยะยาว ซึ่งมีวัตถุประสงค์ใน
การให้สินเชื่อ เพื่อใช้ในการขยาย หรือปรับปรุงกำลังการผลิต การลงทุน และอื่นๆ
นอกจากนี้บริษัทยังมีบริการการให้สินเชื่อในรูปของภาระผูกพัน อาทิเช่น เลตเตอร์ออฟเครดิตใน
ประเทศ อาวัล หนังสือค้ำประกัน ฯลฯ
(2) สินเชื่อเพื่อธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยบริการธุรกิจด้านการส่งออกและการนำเข้า ได้แก่
สินเชื่อก่อนการส่งออก (Packing Credit) สินเชื่อหลังการส่งออก (Export Bill
Purchase/Discount) สินเชื่อสินค้าเข้า (Trust Receipt) บริการค้ำประกันการชำระเงินตามเลตเตอร์
ออฟเครดิต บริการออกหนังสือค้ำประกันหรือโอนสิทธิการรับสินค้า (Shipping Guarantee)
(3) สินเชื่อเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเงินให้สินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน
(4) สินเชื่อโครงการ (Project Finance) ซึ่งเป็นเงินให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการดำเนินการโครงการใด
โครงการหนึ่งที่มีการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ โดยปกติสินเชื่อประเภทนี้มีเงื่อนไขของการ
ชำระคืนนานกว่าหนึ่งปี
(5) สินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสินเชื่อรายย่อยสำหรับบุคคล โดยกำหนดเงื่อนไข
การชำระเป็นรายงวด
(6) สินเชื่อสำหรับการกู้ร่วม (Syndicated Loans) ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีการให้กู้ยืมโดยสถาบันการเงิน
มากกว่าหนึ่งแห่ง โดยสามารถเป็นทั้งผู้จัดสรรเงินกู้ หรือผู้ให้กู้ร่วม
(7) สินเชื่อประเภทอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการตามภาวะตลาด ทั้งนี้ต้องเป็นธุรกรรมที่ได้รับอนุญาตให้
ดำเนินการจากหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท
3. บริการด้านปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ
บริษัทเป็นบริษัทเงินทุนแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 12
พฤศจิกายน 2542 ให้ประกอบธุรกรรมเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ โดยให้บริการการซื้อขาย
เงินตราต่างประเทศในสกุลหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการทำธุรกิจการค้าระหว่าง
ประเทศ
(1) บริการชำระเงินระหว่างประเทศ ได้แก่ การให้บริการเกี่ยวกับเลตเตอร์ออฟเครดิต ด้านสินค้าออก
ตั๋วเรียกเก็บสินค้าออก/เข้า (Bill Collection) เงินโอนต่างประเทศขาเข้าและขาออก บัญชีเงินฝาก
เงินตราต่างประเทศ
(2) บริการปริวรรตเงินตราและการบริหารความเสี่ยงเงินตราต่างประเทศ ได้แก่ การปริวรรตหรือแลก
เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน สัญญาซื้อขายอัตราดอกเบี้ย
ธุรกิจหลักทรัพย์
บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในบริษัทย่อย คือ บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย
จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ อันได้แก่ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์
การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ในเดือนพฤศจิกายน 2545 กลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้มีนโบายให้บริษัทย่อยชะลอการ
ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ตราสารทุนในภูมิภาคเอเซีย ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทย่อยเมื่อวันที่ 14
มกราคม 2546 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยชะลอการดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัทย่อยได้ยื่นขอชะลอการดำเนินธุรกิจ
นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ตราสารทุนต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับอนุมัติให้ขยายระยะ
เวลาดังกล่าวออกไป ซึ่งจะมีผลสิ้นสุดในวันที่ 29 เมษายน 2548
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2548 บริษัทย่อยได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เพื่อขอกลับมาประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยจะเริ่มประกอบธุรกิจดังกล่าวในวันที่ 24 มกราคม
2548 และทางคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้พิจารณาเห็นควรให้เปิดดำเนินธุรกิจการเป็นนายหน้า
ซื้อขายหลักทรัพย์ตามที่บริษัทย่อยยื่นขอตามหนังสือเลขที่ กส. 26/2548 ลงวันที่ 21 มกราคม 2548
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนในบริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย
จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500 ล้านบาทเป็น 1,000
ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1
หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ บริษัทจะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในฐานะผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 30 ล้านหุ้น
ซึ่งเป็นผลให้สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด ภายหลังการเพิ่มทุนลดลงเหลือร้อยละ 80
โดยหุ้นที่บริษัทไม่ได้ใช้สิทธิจองซื้อจำนวน 20 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน
จะจองซื้อโดยกลุ่มบุคคลที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารและผู้ร่วมงานของบริษัทย่อยในราคาเดียวกับผู้ถือหุ้นเดิม
ซึ่งเป็นราคาที่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะนี้กระบวนการดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการ
2.2 รายชื่อผู้บริหารและรายชื่อผู้ถือหุ้น 10 รายแรก ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น(วันที่ 14 มีนาคม 2548)
รายชื่อและตำแหน่งของผู้บริหาร
นายชาญชัย ลี้ถาวร ประธานกรรมการ
นายโชติ โภควนิช รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นายธงชัย อานันโทไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่
นางธริศา ธัญญศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการธนาคารพาณิชย์
Mr. Hock Chye, Yeo ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ โครงการธนาคารพาณิชย์
นางรัชนี มีสมมนต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายระบบงานและเทคโนโลยีสารสนเทศ
นางพจนารถ ซีบังเกิด ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาองค์กร
นางสาวสุมานา พรณัฐวุฒิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์
นายชนก ช่างเรียน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์
นางดวงพร อาภาศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบริหารและควบคุมความเสี่ยง
นายเตชนันท์ เตชะเสน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ - พัฒนาธุรกิจใหม่
นางสาวยิ้มฮวง แซ่โค้ว ผู้จัดการอาวุโส สายปฏิบัติการ
นางสาวชลนี เรียบร้อยเจริญ รองผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการบัญชี
รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ลำดับที่ ชื่อผู้ถือหุ้น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ก หุ้นบุริมสิทธิ ข จำนวนหุ้น ร้อยละ
1 กระทรวงการคลัง - - 486,870,543 486,870,543 30.61
2 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) 263,216 243,066,951 193,934,394 437,264,561 27.49
3 Goldman Sachs & Co 79,522,645 - - 79,522,645 5.00
4 Somers (U.K.) Limited 75,361,645 - - 75,361,645 4.74
5 นายจรินทร์ พงศ์ไพโรจน์ 30,139,448 - 21,456,136 51,595,584 3.24
6 นายชวลิต กาญจนชัยภูมิ 19,913,668 - 15,871,521 35,785,189 2.25
7MIZUHO INTERNATIONAL PLC.31,809,057 - - 31,809,057 2.00
8 นายศักดิ์ชัย วงศ์มาลาสิทธิ์ 8,075,558 - 21,162,028 29,237,586 1.84
9 Morgan Stanley & Co
International Limited 13,531,804 - 12,769,147 26,300,951 1.65
10 Grandsworth Pte.Ltd. 13,275,778 - 10,581,014 23,856,792 1.50
10 นายเค็นเน็ท กอศิริโสภณ 13,275,778 - 10,581,014 23,856,792 1.50
อื่นๆ 227,547,475 - 61,444,125 288,991,600 18.17
รวม 512,716,072 243,066,951 834,669,922 1,590,452,945 100.00
2.3 รายการระหว่างกันในปีที่ผ่านมาและปีปัจจุบัน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 และ 2546 บริษัทมีรายการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการหรือบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
ตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของ
บริษัทจดทะเบียน ในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 ซึ่งสามารถสรุปยอดคงเหลือของรายการดังกล่าวได้ดังนี้ :-
(หน่วย : พันบาท)
2547 2546 ลักษณะความสัมพันธ์
เงินฝากสถาบันการเงิน
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 8,445 15,856 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
เงินลงทุน - สุทธิ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด 12,500 12,500 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ *
บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคัลไทยจำกัด (มหาชน) 19,420 19,420 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ *
เงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ - สุทธิ
บริษัท ควอลิตี้ อินน์ จำกัด - 35,695 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ *
บริษัท บีเอสแอล ลิสซิ่ง จำกัด 297,000 138,600 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่และ
ผู้บริหาร
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) - 5 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด 23,984 - เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่/
บริษัท/ ผู้บริหาร
เงินกู้ยืมและเงินรับฝาก
บริษัท สินเอเซีย ลิสซิ่ง จำกัด 14,396 14,322 เกี่ยวข้องกับผู้บริหาร
บริษัท ไทยฟรังโกเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด 95,814 96,453 เกี่ยวข้องกับผู้บริหาร
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
บริษัท สินเอเซีย ลิสซิ่ง จำกัด 128 32 เกี่ยวข้องกับผู้บริหาร
บริษัท ไทยฟรังโกเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด 837 190 เกี่ยวข้องกับผู้บริหาร
บริษัท บีเอสแอล ลิสซิ่ง จำกัด 29 45 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่และ
ผู้บริหาร
หนี้สินอื่น
บริษัท บีเอสแอล ลิสซิ่ง จำกัด 9,704 12,782 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่
และผู้บริหาร
บริษัท เพชรบุรี เทอร์มินัล จำกัด 1,813 1,813 เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ *
* บริษัทที่ถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทและ/หรือบริษัท ตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป
บริษัทมีนโยบายกำหนดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าบริการและค่าเช่าสำหรับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
ข้างต้น เป็นไปตามเงื่อนไขการค้าโดยทั่วไป รายการระหว่างบริษัทกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันที่เกิดขึ้นในระหว่างปี
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 และ 2546 มีดังนี้ :-
(หน่วย : พันบาท)
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
2547 2546
ดอกเบี้ยรับ 17,404 16,496
เงินปันผลรับ 1,688 2
รายได้ค่านายหน้า - 385
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 1,305 3,110
รายได้ค่าเช่า 155 424
รายได้อื่น - -
ดอกเบี้ยจ่าย 2,069 4,300
ค่าธรรมเนียมจ่าย 167 180
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 1,365 1,246
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสถานที่และอุปกรณ์ 296 1,541
ค่าใช้จ่ายอื่น 1,499 3,259
รายละเอียดเกี่ยวกับลูกหนี้ที่เป็นกิจการหรือบุคคลที่เกี่ยวโยงกันและการเคลื่อนไหวในระหว่างปี
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 มีดังนี้ :-
(หน่วย : พันบาท)
31 ธันวาคม กู้เพิ่ม โอนกลับ รับชำระคืน 31 ธันวาคม
2546 ระหว่างปี รายการ/อื่น ระหว่างปี 2547 ระยะเวลาของสัญญา
บริษัท อุตสาหกรรมปิโตร
เคมีคัลไทย จำกัด
(มหาชน) 95,662 - 2,695 - 98,357 10 พ.ย. 2547 -
30 ธ.ค. 2559
บริษัท ตรีอรรถบูรณ์
อุตสาหกรรม จำกัด 15,597 - - (545) 15,052 17 ก.ค. 2545 -
17 ก.ค. 2557
บริษัท ควอลิตี้ อินน์
จำกัด 93,201 - - (93,201) - ปิดบัญชีเมื่อ 1 ต.ค. 2547
บริษัท บีเอสแอล ลิสซิ่ง
จำกัด 140,000 560,000 - (400,000) 300,000 11 มิ.ย. 2547 -
6 ก.ย. 2549
บริษัท สามมิตรมอเตอร์
แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด 22,984 - - (22,984) - ปิดบัญชีเมื่อ 30 ก.ย. 2547
บริษัท เพชรบุรี เทอร์มินัล
จำกัด 408,450 - - - 408,450 9 พ.ค. 2543 -
9 พ.ย. 2558
บริษัทฯได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าของลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ณ วันที่ 31 ธันวาคม
2547 เป็นจำนวน 785.25 ล้านบาท (2546 : 430.56 ล้านบาท)
รายการเคลื่อนไหวของเงินกู้ยืมและเงินรับฝากจากบริษัทที่เป็นกิจการหรือบุคคลที่เกี่ยวโยงกันในระหว่างปีสิ้นสุดวันที่
31 ธันวาคม 2547 มีดังนี้ :-
(หน่วย : พันบาท)
เงินกู้ยืมและ
31 ธันวาคม เงินรับฝาก จ่ายชำระคืน 31 ธันวาคม ระยะเวลา
2546 ระหว่างปี ระหว่างปี 2547 ของสัญญา
บริษัท สินเอเซีย ลิสซิ่ง จำกัด 14,322 14,862 (14,788) 14,396 12 เม.ย. 2547 -
12 เม.ย. 2548
บริษัท ไทยฟรังโกเอ็นเตอร์ไพรส์
จำกัด 96,453 193,625 (194,264) 95,814 21 เม.ย. 2547 -
21 เม.ย. 2548
เงินกู้ยืมและเงินรับฝากข้างต้นเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 0.50 - 1.375 ต่อปี
2.4 ตารางสรุปงบการเงินในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา และการวิเคราะห์ฐานะการเงิน
และผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา
บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุล
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2545 - 2547
(พันบาท)
2545 2546 2547
จำนวนเงิน จำนวนเงิน จำนวนเงิน
สินทรัพย์
เงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 296,504.35 84,378.15 68,335.40
เงินให้กู้ยืมแก่สถาบันการเงิน - สุทธิ 300,815.11 237,000.00 202,000.00
หลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาขายคืน 393,000.00 924,000.00 -
เงินลงทุน
เงินลงทุนชั่วคราวสุทธิ 260,212.99 68,422.71 694,771.36
เงินลงทุนระยะยาวสุทธิ 9,615,625.28 9,202,313.06 8,631,419.69
รวมเงินลงทุน - สุทธิ 9,875,838.27 9,270,735.77 9,326,191.05
บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างบริษัทหลักทรัพย์ 29,192.46 - -
เงินให้กู้ยืม ลูกหนี้ และดอกเบี้ยค้างรับ
เงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ธุรกิจเงินทุน 23,991,608.40 20,076,581.08 16,041,142.67
ลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ 547,069.35 542,976.65 237,508.93
รวมเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ 24,538,677.75 20,619,557.73 16,278,651.60
ดอกเบี้ยค้างรับ 1,070,395.20 898,230.33 516,012.93
รวมเงินให้กู้ยืม ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับ 25,609,072.95 21,517,788.06 16,794,664.53
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (11,032,734.82) ( 9,741,166.62) (5,771,943.06)
ค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการ
ปรับโครงสร้างหนี้ (2,199,267.31) (1,530,211.93) (975,494.96)
รวมเงินให้กู้ยืม ลูกหนี้และดอกเบี้ย
ค้างรับ-สุทธิ 12,377,070.82 10,246,409.51 10,047,226.51
ทรัพย์สินรอการขาย-สุทธิ 746,633.37 861,426.41 1,075,625.43
อุปกรณ์-สุทธิ 125,759.91 96,219.44 85,118.75
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน - สุทธิ 305,491.95 288,598.29 275,398.10
ดอกเบี้ยและเงินปันผลค้างรับ - สุทธิ 95,386.83 112,964.05 46,010.14
ลูกหนี้อื่น - สุทธิ 105,159.38 47,412.79 100,131.26
สินทรัพย์อื่น - สุทธิ 48,284.09 49,776.96 51,414.48
รวมสินทรัพย์ 24,699,136.54 22,218,921.37 21,277,451.12
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
เงินกู้ยืมและเงินรับฝาก
จากประชาชน 14,976,336.31 12,484,455.13 10,734,505.12
จากสถาบันการเงิน 1,055,000.00 665,000.00 390,000.00
จากต่างประเทศ 14,393.58 13,858.33 9,263.16
รวมเงินกู้ยืมและเงินรับฝาก 16,045,729.89 13,163,313.46 11,133,768.28
หลักทรัพย์ขายโดยมีสัญญาซื้อคืน - - 95,000.00
เจ้าหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ 29,115.39 - -
หุ้นกู้แปลงสภาพ 444,960.75 - -
ดอกเบี้ยค้างจ่าย 142,630.58 62,700.47 42,819.41
หนี้สินอื่น 194,814.85 221,315.83 127,890.49
รวมหนี้สิน 16,857,251.46 13,447,329.76 11,399,478.18
บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบดุล (ต่อ)
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2545- 2547
(พันบาท)
2545 2546 2547
จำนวนเงิน จำนวนเงิน จำนวนเงิน
ส่วนของผู้ถือหุ้น
ทุนเรือนหุ้น
ทุนจดทะเบียน
หุ้นบุริมสิทธิชนิดไม่สะสม มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
ปี 2545 จำนวน 1,507,265,931 หุ้น
ปี 2546 จำนวน 1,505,808,331 หุ้น
ปี 2547 จำนวน 1,504,264,712 หุ้น 15,072,659.31 15,058,083.31 15,042,647.12
หุ้นสามัญ มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
ปี 2545 จำนวน 98,683,596 หุ้น
ปี 2546 จำนวน 100,141,196 หุ้น
ปี 2547 จำนวน 101,684,815 หุ้น 986,835.96 1,001,411.96 1,016,848.15
ทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
หุ้นบุริมสิทธิชนิดไม่สะสม มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
ปี 2545 จำนวน 1,505,860,681 หุ้น
ปี 2546 จำนวน 1,504,667,582 หุ้น
ปี 2547 จำนวน 1,077,736,873 หุ้น 15,058,606.81 15,046,675.82 10,777,368.73
หุ้นสามัญ มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
ปี 2545 จำนวน 84,592,264 หุ้น
ปี 2546 จำนวน 85,785,363 หุ้น
ปี 2547 จำนวน 512,716,072 หุ้น 845,922.64 857,853.63 5,127,160.72
ส่วนเกินมูลค่าหุ้นบุริมสิทธิ 2,258,791.04 2,257,001.39 1,616,605.33
ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ 23,817.67 25,607.32 666,003.38
ส่วนเกินทุน (ต่ำกว่าทุน) จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่า
เงินลงทุน (35,582.99) 14,067.42 (9,574.35)
ขาดทุนสะสม (10,309,670.16) (9,429,614.04) (8,299,590.93)
ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท 7,841,885.01 8,771,591.54 9,877,972.88
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย 0.07 0.07 0.07
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 7,841,885.08 8,771,591.61 9,877,972.95
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 24,699,136.54 22,218,921.37 21,277,451.12
รายการนอกงบดุล - ภาระผูกพันทั้งสิ้น
การค้ำประกัน 29,223.74 14,786.75 9,259.20
ภาระผูกพันอื่น 521,919.44 791,332.52 277,266.95
บริษัทเงินทุน สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
งบกำไรขาดทุน
สำหรับงวดปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2545 - 2547
(พันบาท)
2545 2546 2547
จำนวนเงิน จำนวนเงิน จำนวนเงิน
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล
เงินให้กู้ยืมและเงินฝาก 952,082.07 1,009,053.43 850,028.35
เงินลงทุน 304,570.57 259,332.68 269,014.87
รวมรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 1,256,652.64 1,268,386.11 1,119,043.22
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยและส่วนลดจ่าย 542,047.04 363,057.40 222,003.98
ค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมเงิน 3,049.98 1,361.60 608.38
รวมค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 545,097.02 364,419.00 222,612.36
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 711,555.62 903,967.11 896,430.86
โอนกลับหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ
(หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ) (1,986,203.44) 881,263.64 667,447.41
โอนกลับขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้
(ขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้) (78,760.87) (680,523.89) 258,826.58
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิหลังหัก
หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการปรับ
โครงสร้างหนี้ (ขาดทุน) (1,353,408.69) 1,104,706.86 1,822,704.85
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
ค่านายหน้า 74,129.64 10,658.99 -
กำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุน 62,317.45 92,591.95 (51,757.30)
ค่าธรรมเนียมและบริการ 82,688.78 36,857.75 24,571.02
กำไร (ขาดทุน) จากการปริวรรต (456.42) (1,135.27) 795.41
ส่วนแบ่งจากการชำระบัญชี 76,149.60 143,563.45 62,048.10
รายได้ค่าเช่า 5,048.93 3,003.44 670.50
รายได้อื่น 11,408.51 4,246.67 9,952.56
รวมรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (ขาดทุน) 311,286.49 289,786.98 46,280.29
รายได้สุทธิ (ขาดทุน) (1,042,122.20) 1,394,493.84 1,868,985.14
ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 305,413.34 259,732.12 291,231.35
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ 119,860.87 96,283.25 88,614.41
ค่าภาษีอากร 31,829.33 40,538.44 34,845.37
ค่าตอบแทนกรรมการ 2,346.00 2,065.50 3,187.50
เงินสบทบกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา
ระบบสถาบันการเงิน 69,885.65 59,309.87 55,158.83
ค่าเผื่อการลดราคาสินทรัพย์อื่น (โอนกลับค่าเผื่อ
การลดราคาสินทรัพย์อื่น) (17,436.70) 2,726.72 186,983.20
ขาดทุนจากการโอนลูกหนี้ 111,294.68 6,713.90 48,656.92
ค่าใช้จ่ายอื่น 59,433.19 47,067.93 30,284.45
รวมค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย 682,626.36 514,437.73 738,962.03
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ สำหรับปี (1,724,748.56) 880,056.11 1,130,023.11
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (20.58) 10.36 4.77
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้นปรับลด (20.58) 0.55 0.86
การวิเคราะห์ฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานในปี 2547
บริษัทและบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิในปี 2547 จำนวน 1,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 จำนวน 250 ล้านบาท
หรือในอัตราร้อยละ 28 ทำให้บริษัทมีมูลค่าหุ้นตามบัญชีเป็นจำนวน 6.21 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 5.52 บาทต่อหุ้น
ในปี 2546 ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายฐานเงินให้สินเชื่อปกติเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากปีก่อน
และจากผลสำเร็จในการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมาทำให้บริษัทได้รับชำระหนี้จากกลุ่มสินเชื่อที่มาจากการ
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้จำนวนกว่า 3 พันล้านบาท
จากสาเหตุดังกล่าวนี้ทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทดีกว่าปีก่อนแม้ว่าอัตราผลตอบแทนของ
ดอกเบี้ยจะลดลงและมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้นก็ตาม
สินเชื่อสุทธิ ณ สิ้นปี 2547 มีจำนวน 10,047 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนมีผลมาจากการรับชำระหนี้ของหนี้ที่มา
จากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในระหว่างปีซึ่งสูงกว่าสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 36 ณ สิ้นเดือนธันวาคม
2547
อัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลังจากหักค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อสุทธิรวมอยู่ที่ร้อยละ 10 ลดลง
จากปี 2546 ซึ่งมีอัตราดังกล่าวที่ร้อยละ 18
จากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เป็นจำนวน 9,878 ล้านบาท
และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นปี 2547 ในอัตราร้อยละ 74.2 เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 8 โดยมี
เงินกองทุนชั้นที่ 1 เป็นจำนวน 9,240 ล้านบาท
2.5 ข้อมูลอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
- ไม่มี -
3. บุคคลที่เกี่ยวโยงกันและ/หรือผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
รายชื่อและจำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในการอนุมัติการตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันนี้
ประกอบด้วย
หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ก หุ้นบุริมสิทธิ ข รวมจำนวนหุ้น ร้อยละ
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด
(มหาชน) 263,216 243,066,951 193,934,394 437,264,561 27.49
นายชาตรี โสภณพนิช 3,967,858 - 2,206,019 6,173,877 0.39
4. การประเมินราคาสินทรัพย์โดยผู้ประเมินราคาอิสระในกรณีเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่มี
ความสำคัญขั้นพื้นฐานในรูปของมูลค่าของตัวสินทรัพย์ เช่น อสังหาริมทรัพย์
- ไม่มี -
5. ความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (ปรากฏตามเอกสารแนบ)
6. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
บริษัทได้มีหนังสือลงวันที่ 4 มีนาคม 2548 ขอความเห็นจากคณะกรรมการบริษัทที่ไม่มีส่วนได้เสียในรายการดังกล่าว
อีกครั้ง โดยได้นำส่งความเห็นของบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อประกอบการพิจารณา
ซึ่งกรรมการมีความเห็นว่า การทำรายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล
เนื่องจากเป็นการดำเนินการตามแผนจัดตั้งธนาคารพาณิชย์
ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง เป็นผลให้บริษัทสามารถให้บริการทางการเงินได้อย่างครบวงจร
ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ประกอบกับราคาหุ้นบัวหลวงอยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม
7.
ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบและ/หรือกรรมการของบริษัทที่แตกต่างจากความเห็นของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการตรวจสอบไม่มีความเห็นแตกต่างจากคณะกรรมการของบริษัท
8. อื่นๆ
ผู้ถือหุ้นสามารถศึกษาข้อมูลของบริษัทเพิ่มเติมได้จากรายงานประจำปี 2547 ของบริษัท
18
|