09:49:06 AM
  หัวข้อข่าว : SET :News Release: บจ.ใน mai โชว์ผลงานปี 2547กำไรรวมกันกว่าพัน...

  
                                                                      ฉบับที่ 4/2548
                                                                    14 มีนาคม 2548

บจ. ใน mai โชว์ผลงานปี 2547 กำไรรวมกันกว่าพันล้าน อัตราการเติบโตก้าวกระโดด 29%

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 23 บริษัทประกาศผลการดำเนินงานปี 2547 มีกำไรสุทธิรวม  ทั้งสิ้น
1,035 ล้านบาท กำไรเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทั้งตลาดถึง 29% นำโดย อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น  (ILINK) กำไรเพิ่มขึ้น
344% ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) กำไรเพิ่มขึ้น 205% ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไรเพิ่มขึ้น 181%
และ พรพรหมเม็ททอล (PPM) กำไรเพิ่มขึ้น 150%

นายวิเชฐ  ตันติวานิช  ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ mai กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน
23 บริษัท นำส่งงบการเงินประจำปี 2547 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2547  มีผลกำไรรวม 1,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
ถึงร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน  และเมื่อมองภาพรวมปี 2547 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ mai
เกือบทั้งหมดมีผลกำไรยกแผง
 
"บริษัทจดทะเบียนใน mai ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง  ซึ่งจาก
ผลการดำเนินงานของปี 2547 นี้ จะเห็นได้ว่าบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีกำไรเกิน
กว่า 150%  ถึง 4 บริษัท ได้แก่  1. อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น  (ILINK)  กำไรสุทธิ 40 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก
งวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 344% เนื่องจาก บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจจัดจำหน่ายถึง 30% ตลอดจนการ
ขยายธุรกิจใหม่ด้วยการรับรู้รายได้จากการรับเหมาติดตั้งระบบข่ายสายสัญญาณสื่อสาร สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส
แรก และการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากร

2. บมจ. ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) กำไรสุทธิ 58 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 205%  เนื่อง
จาก การขยายตัวอย่างมากของอุตสาหกรรมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและส่งเสริมการขาย   ลูกค้าของ
บริษัททั้งหน่วยงานราชการ และบริษัทชั้นนำในภาคเอกชนได้มีการเพิ่มงบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรมทาง
การตลาดอย่างมาก นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท พีเอ็ม
เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท ดิอายส์ จำกัด อีกด้วย

3. บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส  กำไรสุทธิ 135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 181
เนื่องจากบริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก  มีผลทำให้กำไรขั้นต้น
สูงขึ้น ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

อันดับ 4  คือ บมจ. พรพรหมเม็ททอล (PPM) มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อย
ละ 150 เนื่องจากบริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมของบริษัทมีการเพิ่มปริมาณ
การสั่งซื้อสินค้า นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายยังมีการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้เพียงพอ
ต่อความต้องการของตลาด

นายวิเชฐ ยังกล่าวอีกว่า นอกจาก 4 บริษัทข้างต้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิร้อยละ 150 แล้ว ยังมีบริษัท
ที่มีอัตราการเติบโตเกินกว่าร้อยละ 100 อีก 3 บริษัท ได้แก่ บมจ. ซี.ไอ. กรุ๊ป (CIG)  บมจ. แอล.วี.
เทคโนโลยี
(LVT) และ บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอร์เรอส์  (GFM) โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 130 ร้อยละ 110 และ
ร้อยละ 100 ตามลำดับ

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน mai สามารถศึกษาข้อมูลจากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือเข้าดูข้อมูลของบริษัท
จดทะเบียนใน mai ได้ ทาง www.mai.or.th หรือ www.settrade.com หรือสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ S-E-T
Call center โทร. 02229 –2222


       เอกสารประกอบข่าวตลาดหลักทรัพย์ mai ฉบับที่ 4/2548 ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2548

             ตารางแสดงผลการดำเนินงานของบจ. ในตลาดหลักทรัพย์ mai สำหรับปี 2547
 
                                                                    หน่วย:ล้านบาท

                       บริษัท                           กำไรสุทธิงวด 12 เดือน

                                                    2547    2546    %เปลี่ยนแปลง

1. บมจ.อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK)                  40       9         344
2. บมจ.ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO)                        58      19         205
3. บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS)                     135      48         181
4. บมจ.พรพรหมเม็ททอล (PPM)                            52      21         148
5. บมจ. ซี ไอ กรุ๊ป (CIG)                               46      20         130
6. บมจ.แอล.วี.เทคโนโลยี  (LVT)                         44      21         110
7. บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ (BOL)                            12       6         100
8. บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อิควิปเมนท์ (L&E)                     44      24          83
9. บมจ.ธนมิตร แฟคตอริ่ง (DM)                            19      11          73
10. บมจ.ปิโก้ (ไทยแลนด์) (PICO)                         41      30          37
11. บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO)                           85      65          31
12. บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC)                   21      16          31
13. บมจ.ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) (CHUO)                 13      10          30
14. บมจ.อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง (RK)                       38      30          27
15. บมจ ทาพาโก้ (TAPAC)                               24      22           9
16. บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอร์ส                     107     100           7
17. บมจ.เชอร์วู๊ด เคมิคอล (SWC)                          63      69          -9
18. บมจ.ไทยมิตซูวา (TMW)                              128     147         -13
19. บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น (IRCP)         36      44         -18
20. บมจ.แพค เดลต้า (PD)                               39      60         -35
21. บมจ.ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA)                 4      20         -80
22. บมจ.โฟคัส เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น (FOCUS)              2      13         -85
23. บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK)                         -16       4        -500

                 รวม                              1,035     809       28.43