09:28:34 AM
  หัวข้อข่าว : TUF :บทวิเคราะห์งบการเงิน ปี 2547

                       บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
เพิ่มขึ้น / (ลดลง)         ไตรมาสที่ 4 ปี 2547    ปี 2547
                           เทียบกับ         เทียบกับ
                       ไตรมาสที่ 4 ปี 2546    ปี 2546
กำไรสุทธิ                    155%            (15%)
ยอดขาย (บาท)               22%              16%
ยอดขาย (เหรียญสหรัฐ)         22%              19%
ปริมาณการขาย                 7%              (1%)
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น          0.73 เท่า
EBITDA ไตรมาสที่ 4                   865 ล้านบาท
EBITDA  ปี 2004                   3,133 ล้านบาท

อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2547  =    39.06 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 =    40.09 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 =    39.81 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในปี 2547       =        40.34 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในปี 2546       =        41.46 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ

จำนวนหุ้นสำหรับ ไตรมาสที่ 4 ปี 2547  =         864.3 ล้านหุ้น
จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ย  ปี 2547      =         861.7 ล้านหุ้น

สัดส่วนรายได้จากการขาย
ทูน่าแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง          51%
กุ้งแช่แข็ง                        21%
อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง             9%
อาหารแมวบรรจุกระป๋อง              8%
อาหารกุ้ง                         4%
ปลาหมึกแช่แข็ง                     3%
ในประเทศ                        4%

การจัดจำหน่าย
อเมริกา                          60%
ญี่ปุ่น                             13%
ยุโรป                             7%
ตะวันออกกลาง                      2%
เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น)                 3%
แคนาดา                           2%
แอฟริกา                           1%
ออสเตรเลีย                        3%
อเมริกาใต้                         1%
ในประเทศ                         8 %

ในปี 2547 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1.16 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 46.7 ล้านบาทไทย
แม้ว่าจะต้องเผชิญกับหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างปี เช่น ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ราคาวัตถุดิบ
ของปลาทูน่า และการฟ้องร้องเกี่ยวกับการทุ่มตลาดกุ้งของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้กำไรสุทธิ
เท่ากับ 1,933 ล้านบาท หรือ ลดลงเพียง 15.2% ซึ่งต่ำกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 20%
จากปี 2546

ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 ยอดขายเท่ากับ 12,195.6 ล้านบาท (304 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 22.5 %
จากไตรมาสที่ 4 ปี 2546 และ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 525.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.0% จากไตรมาสที่ 4
ปี 2546 ซึ่งมีผลมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงประกอบกับราคาวัตถุดิบของปลาทูน่าจาก
มหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกที่สูงขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ยอดขายอาหารแมวบรรจุกระป๋อง และกุ้งแช่แข็ง
ที่ดีขึ้นกว่าปี 2546 อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลงจากไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เป็นผลมา
จากค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นและยอดขายปลาทูน่าบรรจุกระป๋องที่ลดลงเล็กน้อย

เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จาก 41.49 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ ในเดือนกันยายน ไปอยู่ที่ 39.06 บาท /
1 เหรียญสหรัฐ ในช่วงสิ้นปี 2547 ซึ่งมูลค่าลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับสกุลเงินบาท การแกว่งตัวของ
ค่าเงินที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ มีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานอย่างมาก เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่
เกิดจากในประเทศประมาณ 60% อย่างไรก็ตามการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทไม่ได้ส่งผลให้มีการลดลง
ของการแข่งขันในภูมิภาคนี้เท่าใดนัก

ราคาปลาทูน่ากลับมาสู่ภาวะปกติ หลังจากราคาวัตถุดิบทูน่าที่ปรับตัวไปอยู่ระดับสูงสุดในเดือนกันยายน
2547 (1,170 เหรียญสหรัฐ / เมตริกตัน) ลดลงมาเล็กน้อยเนื่องมาจากข่าวการจับปลาได้มากขึ้น
ทั้งจากมหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย (ช่วงฤดูกาลจับปลาในเดือนตุลาคม) ดังนั้นราคา
วัตถุดิบของ ทูน่า Skipjack ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 จึงปรับตัวมาอยู่ในในระดับปกติเท่ากับ
700-800 เหรียญสหรัฐ / เมตริกตัน

อัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกุ้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคม 2548 ผู้ส่งออกกุ้งไทย
รวมถึง TUF ได้รับอัตราภาษีที่ต่ำสุด เท่ากับ 5.95% โดยคาดว่าประเทศจีนอาจได้รับอัตราภาษีที่สูง
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากอัตราภาษีของทั้ง 5 ประเทศ รวมประเทศไทยด้วย ไม่ได้ส่งผลกระทบมาก
สำหรับการส่งออกกุ้งไปสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา
 
ผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ความเสียหายจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้นกับจังหวัด
ทางภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งกับผู้คน
ทรัพย์สินมากมาย ถึงแม้ว่าผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง และสถานที่ฟักเลี้ยงตัวอ่อนของกุ้งจะได้รับความเสียหาย
แต่ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายกุ้งและอาหารกุ้งของ TUF ไม่ได้รับผลกระทบมากจาก
เหตุการณ์ครั้งนี้

การเปลี่ยนแปลงประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัทย่อยที่สหรัฐอเมริกา เมื่อปลายปีที่แล้ว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหมดวาระลง ผู้บริหาร
คนใหม่สำหรับ COSI คือ Mr.John Signorino เคยเป็น CEO ของ Ruiz Food Products
ซึ่งเป็นบริษัทประเภท Mexican Food ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา
และมีประสบการณ์จาก Nestle USA และ Anheuser-Busch ในขณะที่ผู้บริหารคนใหม่ของ
Empress คือ Mr.Timothy Mclellan เคยดำรงตำแหน่ง National sales manager
บริษัท ConAgra Foods ที่เป็นบริษัทอาหารที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา โดยผู้บริหารคนใหม่นี้มี
ความรู้ความสามารถทางด้านการตลาด และมีประสบการณ์ด้านอุตสาหรรมอาหารทะเลเป็นอย่างดี

               EBITDA

ล้าน                  2547    2546     2545
EBITDA              3,133    3,683    2,837
EBITDA (เหรียญสหรัฐ)     78       89      66
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย    40.34    41.46    43.01

การวิเคราะห์ทางการเงิน
ยอดขายของกลุ่มบริษัท ในรูปเงินเหรียญสหรัฐเท่ากับ 304 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.5%
จากไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ในขณะที่ยอดขายในรูปเงินบาทเพิ่มจากในไตรมาสที่ 4 ปี 2546
ซึ่งเท่ากับ 9,957  ล้านบาท เป็น 12,196 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.5%  และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3
ปี 2547 จะเห็นได้ว่าลดลง  5.5% ในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ ลดลง 8.4% ในรูปเงินบาท
สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ยอดขายลดลง คือ ยอดขายทูน่าบรรจุกระป๋องที่ลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทที่
แข็งขึ้นอย่างมากในระหว่างไตรมาสที่ 4 ปี 2547

ยอดขายปลาทูน่าบรรจุกระป๋องและปลาทูน่าสุกแช่แข็ง ในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4
ปี 2546 เท่ากับ 21.7% แต่ลดลง 5.9% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เนื่องมาจากยอดขายทูน่าบรรจุ
กระป๋องที่ลดลงระหว่างไตรมาส ในขณะที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เท่ากับ 4.3%
แต่ลดลงจากไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เท่ากับ 8.0% ยอดขายที่สูงขึ้นสืบเนื่องมาจากราคาขายต่อหน่วยที่
เพิ่มสูงขึ้น และ ราคาวัตถุดิบที่บริษัทได้สั่งซื้อไว้ เพราะช่วงเวลาที่สั่งสินค้าจนถึงวันที่ได้รับวัตถุดิบต้อง
ใช้ระยะเวลา 1-2 เดือนยอดขายปลาทูน่าบรรจุกระป๋องจากบริษัท COSI ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในระหว่างไตรมาส เท่ากับ 63.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2546 แต่ลดลง
จากยอดขายในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 โดยที่ยอดขายทั้งหมดของ COSI นั้น 78% มากจากยอดขาย
ปลาทูน่าบรรจุกระป๋อง ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นมีส่วนหนึ่งเกิดจากยอดขายแบรนด์อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง

ความสามารถในการจับปลาได้ดีขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกส่งผลให้ราคา
วัตถุดิบทูน่า skipjack ที่ท่าเรือกรุงเทพ จากมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกลดลงจาก 1,170 เหรียญสหรัฐ
/เมตริกตัน ในเดือนกันยายน 2547 ซึ่งเป็นราคาที่อยู่ในระดับสูงสุดเหลือ 700 เหรียญสหรัฐ/เมตริกตัน
ในเดือนธันวาคม การที่ราคาลดลงนี้ ส่งผลให้เกิดความแตกต่างกันมากในเดือนกันยายนและธันวาคม
ทำให้ราคาวัตถุดิบทูน่าในเดือนมกราคมมีการปรับตัวไปอยู่ที่ 800 เหรียญสหรัฐ/เมตริกตัน โดยที่ปริมาณ
วัตถุดิบก็ไม่ได้รับความเสียหายจากภัยคลื่นยักษ์สินามึ

ยอดขายกุ้ง ในรูปเงินเหรียญสหรัฐเท่ากับ 63.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.0% จากไตรมาสที่ 4
ปี 2546 แต่ลดลง 2.6% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2547  ในขณะที่ปริมาณการขายลดลง 6.8% จาก
ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 และ 5.0% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เป็นผลมาจากยอดขายกุ้งส่งออกไป
ญี่ปุ่นสูงขึ้นระหว่างปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับต้นปี 2547  โดยปกติทั่วไปราคาขายที่ตลาดญี่ปุ่นในรูปเงิน
เหรียญสหรัฐ จะมีมูลค่าสูงกว่าตลาดอื่น เนื่องจากความต้องการสินค้ามูลค่าเพิ่มของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น

ยอดขายกุ้งจาก Empress ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกุ้งแช่แข็งในสหรัฐอเมริกา ในไตรมาสที่ 4
ปี 2547 เท่ากับ 36.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 74% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท Empress
ในสหรัฐอเมริกา

ราคากุ้งกุลาดำ (40 ตัว/กิโลกรัม) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 219 บาท/กิโลกรัม ในเดือนกันยายน 2547
เป็น 221 บาท/กิโลกรัม ในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ยังมีรายงานผลกระทบเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ทางภาค
ใต้ของไทยทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งและบ่อเลี้ยงกุ้งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย รวมไปถึงปริมาณ
การเพาะเลี้ยงกุ้งในฤดูหนาวจะได้น้อยกว่าฤดูกาลอื่นทำให้ราคากุ้งในปัจจุบันปรับสูงขึ้นเป็น 245 บาท/กิโลกรัม

แม้กระนั้นก็ตามราคาวัตถุดิบของกุ้งขาว (60 ตัว/กิโลกรัม) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ราคาขายของ
กุ้งขาวจาก 120 บาท/กิโลกรัม ในเดือนกันยายน สูงขึ้นเป็น 135 บาท/กิโลกรัม


ผลการดำเนินงานรวม
                 ไตรมาสที่  4 ปี 2547    %       ไตรมาสที่  3 ปี 2547     %
ยอดขาย                12,195.6     100.00          13,303.7      100.00
ต้นทุนขาย               10,351.2      84.88          11,147.6       83.79
กำไรขั้นต้น               1,844.4      15.12           2,156.1       16.21
คชจ.ขายและบริหาร        1,184.3       9.71           1,435.8       10.86
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน      39.7       0.33               6.6        0.00
กำไรจากการดำเนินงาน       620.4       5.08             713.7        5.35
ดอกเบี้ยรับ                   0.9       0.01               1.0        0.01
ส่วนแบ่งผลกำไรในบริษัทย่อย      5.2       0.04              11.4        0.09
รายได้อื่น                   28.0       0.23              61.3        0.48
EBIT                     654.5       5.36             787.4        5.92
ดอกเบี้ยจ่าย                 70.4       0.58              55.3        0.42
ภาษีเงินได้นิติบุคคล           (29.1)     (0.24)             67.0        0.50
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 613.2       5.02             665.1        5.00
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย     87.4       0.72             100.8        0.76
กำไรสุทธิ                  525.8       4.30             564.3        4.24
กำไรต่อหุ้น (บาท)            0.61                        0.65

ผลการดำเนินงานรวม
                  ไตรมาสที่ 2 ปี 2547    %       ไตรมาสที่  1 ปี 2547     %
ยอดขาย                11,024.6     100.00          10,227.2      100.00
ต้นทุนขาย                9,343.0      84.75           8,739.1       85.45
กำไรขั้นต้น               1,681.6      15.25           1,488.1       14.55
คชจ.ขายและบริหาร        1,176.7      10.67           1,211.1       11.84
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน      32.3       0.29             (41.5)      (0.41)
กำไรจากการดำเนินงาน       472.6       4.29             318.5        3.10
ดอกเบี้ยรับ                   1.1       0.01               1.0        0.01
ส่วนแบ่งผลกำไรในบริษัทย่อย     13.5       0.12               7.7        0.08
รายได้อื่น                   81.8       0.74              84.1        0.82
EBIT                     569.0       5.16             411.3        4.01
ดอกเบี้ยจ่าย                 46.3       0.42              47.9        0.47
ภาษีเงินได้นิติบุคคล           (61.9)     (0.56)             15.0        0.15
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 584.6       5.30             348.4        3.39
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย         57.1       0.52              33.1        0.32
กำไรสุทธิ                  527.5       4.78             315.3        3.07
กำไรต่อหุ้น (บาท)            0.61                         0.37

ผลการดำเนินงานรวม
                   ปี 2547    %      ปี 2546     %      ปี2545     ปี2544      ปี2543
ยอดขาย           46,751.0  100.00  40,330.6  100.00  34,243.4  35,324.4  19,120.1
ต้นทุนขาย          39,580.9   84.66  33,299.4   82.57  28,020.1  29,514.3  16,077.8
กำไรขั้นต้น          7,170.1   15.34   7,031.2   17.43   6,223.3   5,810.1   3,042.3
คชจ.ขายและบริหาร   5,007.9   10.71   4,488.1   11.13   3,718.4   3,837.1   1,536.6
ขาดทุนจาก
  อัตราแลกเปลี่ยน       37.1    0.08      -        -       392.5      -        -
กำไรจากการ
  ดำเนินงาน        2,125.2    4.55   2,543.1   6.30    2,112.4   1,973.0   1,505.7
ดอกเบี้ยรับ              4.0    0.01       1.9   0.00        8.5      22.4      33.2
ส่วนแบ่งผลกำไร
  ในบริษัทย่อย          37.8    0.08      45.2   0.11       37.4      39.1     136.6
รายได้อื่น             255.2    0.55     454.8   1.13      248.9     488.6     505.9
EBIT              2,422.2    5.19   3,045.0   7.54    2,407.2   2,523.1   2,181.4
ดอกเบี้ยจ่าย           219.9    0.47     140.1   0.35      157.6     380.8     113.3
ภาษีเงินได้นิติบุคคล       (9.0)  (0.02)    358.5   0.89      542.0     454.1     365.9
กำไรก่อนส่วนของผู้ถือ
  หุ้นส่วนน้อย        2,211.3    4.74   2,546.4   6.30    1,707.6   1,688.2    1,702.2
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย   278.4    0.60     267.1   0.66      158.6     182.6      177.4
กำไรสุทธิ           1,932.9    4.14   2,279.3   5.64    1,549.0   1,505.6    1,524.8
กำไรต่อหุ้น (บาท)      2.24              2.65              1.80      2.01       2.04
 
ผลการดำเนินงานรวมรายปี
 
                        2542       2541     2540     2539      2538
กำไรสุทธิ (ล้านบาท)       1,762.4   1,207.9    801.1    258.5     451.5
กำไรต่อหุ้น (บาท)          24.56     21.42     16.02     5.17      9.03
เงินปันผลต่อหุ้น (บาท)       12.00     10.25      8.25     3.00      6.00
 
                        2547       2546     2545     2544      2543
กำไรสุทธิ (ล้านบาท)      1,932.9    2,279.3  1,549.0  1,505.6   1,524.8
กำไรต่อหุ้น (บาท)          2.24**    2.65**   1.80**    2.01**    10.18*
เงินปันผลต่อหุ้น (บาท)        n/a      1.85     1.27      1.23       5.10

** มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท                  * มูลค่าที่ตราไว้ 5 บาท

ต้นทุนขาย ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 84.88% ของยอดขาย เพิ่มขึ้นจาก 83.79%ในไตรมาสที่ 3
ปี 2547 ในขณะที่กำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 15.12% ลดลงจาก 16.21% ในไตรมาสที่ 3
ปี 2547 ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการปรับตัวของราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นตลอดจากไตรมาสที่แล้ว

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547  เท่ากับ 1,184 ล้านบาท หรือ เท่ากับ 9.71%
ของยอดขาย ขณะที่ไตรมาสที่ 3 ปี 2547 เท่ากับ 1,436 (10.9% ของยอดขาย) และไตรมาสที่ 4
ปี 2546 เท่ากับ 1,226 ล้านบาท เห็นได้ว่าลดลงจากทั้ง 2 ช่วงเวลา เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย
โดยการใช้ Brand Strategy ของ COSI ที่ลดลงในไตรมาสที่ 4 ปี 2547

ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน  (ที่จัดสรรและยังไม่จัดสรร) ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 39.7 ล้านบาท
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการแข็งค่าขึ้นอย่างมากของค่าเงินบาท ในระหว่างไตรมาสที่ 4 ปี 2547
จาก 41.5 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ ในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ระดับ 39.06 บาท / 1 เหรียญสหรัฐ
ในเดือน ธันวาคม 2547

ส่วนแบ่งผลกำไรในบริษัทย่อย  ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 5.2 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสที่ 4
ปี 2546 เท่ากับ 16.2 ล้าน

รายได้อื่น ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 28.0 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 4 ปี 2546
ท่ากับ 99.6 ล้านบาท สาเหตุเกิดจาก การขาดทุนในอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2547

รายได้ภาษีเงินได้  ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 29.2 ล้านบาท จากบริษัทย่อยในประเทศสหรัฐ
อเมริกา ขณะที่ในประเทศไทยกิจการได้รับการส่งเสริมจากการลงทุน(BOI) ส่งผลให้เสียภาษีในอัตราที่น้อยที่สุด

กำไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 525.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.0% จากไตรมาสที่ 4
ปี 2546 แต่ลดลง 6.8% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2547 โดยมีกำไรต่อขั้นต้นเท่ากับ 4.31%
สูงกว่าในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 ซึ่งเท่ากับ 4.22 และมี กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.61 บาท

อัตราหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 85 วัน ขณะที่อัตราหมุนเวียน
เฉลี่ยของสินค้าคงเหลือในปี 2547 เท่ากับ 90 วัน

อัตราหมุนเวียนของลูกหนี้  ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 29.7 ขณะที่อัตราเฉลี่ยของอัตรา
หมุนเวียนของลูกหนี้ในปี 2547 เท่ากับ 29.3 วัน

อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ในไตรมาสที่ 4 ปี 2547 เท่ากับ 0.73x ลดลงจากไตรมาสที่ 3
 ปี 2547 ซึ่งเท่ากับ 0.77x เนื่องมาจากความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนในการสนับสนุนยอดขายลดลง

งบดุล (ล้านบาท)

                         2547        2546       2545       2544
สินทรัพย์หมุนเวียน          15,966.2    13,792.5   11,999.7    12,372.2
เงินลงทุน                   250.7       229.0      204.4       202.0
สินทรัพย์ถาวร
  และ สินทรัพย์อื่น          7,805.2     6,665.1    5,784.0     5,523.0
รวมสินทรัพย์              24,022.1    20,686.6   17,988.1    18,097.2
หนี้สินหมุนเวียน             8,417.4     6,259.9    7,524.5     5,348.9
หนี้สินระยะยาว             3,706.2     3,526.7      164.6     4,102.2
รวมหนี้สิน                12,123.6     9,786.6    7,689.1     9,451.1
ส่วนของผู้ถือหุ้น ส่วนน้อย      1,127.4       963.4      847.9       806.9
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น         10,771.1     9,936.6    9,451.1     7,839.2

                                  2547       2546       2545
อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (เท่า)            1.90       2.20       1.59
Gearing Ratio (X)*                1.02       0.90       0.75
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า)**  0.73       0.61       0.43
อัตราหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (วัน)       90         95        105
อัตราหมุนเวียนของลูกหนี้ (วัน)             29         28         32
อัตราหมุนเวียนของเจ้าหนี้ (วัน)            16         20         23
อัตราผลตอบแทนขั้นต้นต่อยอดขาย (%)     15.34      17.43      18.17
อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อรายได้รวม (%)     4.11       5.58       4.48
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
  เฉลี่ย (%)-unannualized          18.67      23.51      17.92
Times IR Earned (X)              11.02      21.73      15.28

*Gearing Ratio:=หนี้สินรวม / ส่วนของผู้ถือหุ้น+ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย
** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น: =Interest-bearing Debts/ ส่วนของผู้ถือหุ้น+ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย

ทุนจดทะเบียน

ราคา  (28/02/2548) : 27.25 บาท
ราคาในอดีต : สูง 32.25     ต่ำ 16.80
จำนวนหุ้น : 864.30 ล้าน
มูลค่าการตลาด : Bt 23.3 พันล้าน (613 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน : 720,000 หุ้น
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ : กลุ่มจันศิริ  26.31%
 
วัน เดือน ปี            ราคาปิด           กำไรต่อหุ้น
31 ธ.ค.47            24.80**            11.70
31 ธ.ค.46            31.00**            11.70
27 ธ.ค.45            17.00**             9.44
28 ธ.ค.44            16.80**             8.36
29 ธ.ค.43            50.00**             4.96

** มูลค่าที่ตราไว้ 1บาท    * มูลค่าที่ตราไว้ 5 บาท
# จำนวนหุ้นที่ออกใหม่ วันที่ 2 กรกฎาคม 2547 = 5,213,000 หุ้น

จำนวนหุ้นสามัญใหม่ที่ออกตามโครงการ ESOP เป็นจำนวน 26 ล้านหุ้น โดยมีอายุ 5 ปี ทั้งนี้ผู้ที่มีสิทธิได้รับ
การจัดสรรต้องมีฐานะเป็นกรรมการ และพนักงานอยู่ ณ วันที่ได้รับการจัดสรร โดยกำหนดการใช้สิทธิในวันที่ 2
กรกฎาคม ของแต่ละปี

                               กระแสเงินสด (ล้านบาท)
                                2547        2546        2545        2544
กำไรสุทธิ                       1,932.9     2,279.3     1,549.0     1,505.6
ค่าเสื่อมราคาและการตัดจำหน่าย        710.7       607.0       521.1       423.2
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน     781.2     2,865.8     2,983.0        80.3
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน      (1,560.9)   (1,710.9)     (706.5)   (2,601.5)
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน      819.5    (1,161.1)   (2,699.6)    1,361.2
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของ
   อัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อเงินสด
   และรายการเทียบเท่าเงินสด         14.8        62.3        47.5       (24.9)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
   เพิ่มขึ้น (ลดลง) สุทธิ              54.6        56.1      (375.5)   (1,135.1)