|
ทำไมต้องซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต |
สะดวกสบาย
คุณสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง จากบ้าน
จากที่ทำงาน จากอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หรือที่อื่นๆที่คุณสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
ตัดปัญหาการเดินทางฝ่ารถติดไปห้องค้า
หรือต่อสายโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่การตลาด
พร้อมพรั่งด้วยข้อมูลข่าวสาร คุณสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายและทันสมัยตลอดเวลา
ทั้งข้อมูลราคาหลักทรัพย์เรียลไทม์
รายละเอียดบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
บทวิเคราะห์จากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ข้อมูลทางสถิติ
ข้อมูลปัจจุบันและย้อนหลังเพื่อช่วยในการตัดสินใจของคุณ
คุ้มค่าด้วยค่าใช้จ่ายต่ำกว่า ซื้อขายด้วยตัวเอง
จูงใจด้วยค่าคอมมิชชั่นระดับต่ำ เพียงแค่ 0.2 % เท่านั้น
เริ่มต้นซื้อขายด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย มีเงินมากก็ฝากเงินมาก
มีเงินน้อยก็ฝากน้อย ด้วยการเลือกเปิดบัญชีแบบ Pre-paid ฝากเท่าไหร่
ซื้อขายได้เท่านั้น |
|
|
การซื้อขายแบบอินเตอร์เน็ต
เหมาะกับใครบ้าง |
ประเภทแรก
นักลงทุนที่ต้องการความคล่องตัวในการตัดสินใจลงทุน
เพราะสามารถส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง พร้อมตรวจสอบสถานะคำสั่ง
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยข่าว
บทวิเคราะห์และเครื่องมือประกอบการตัดสินใจต่างๆ
ทั้งนี้ควรเป็นคนที่เคยใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมาบ้าง
หรือคนที่คิดว่าสามารถเรีบนรู้การใช้คอมพิวเตอร์ได้
ประเภทที่สอง คือ นักลงทุนหน้าใหม่ มีเงินทุนไม่มากนัก
แต่ต้องการเริ่มต้นเรียนรู้การลงทุนในหุ้น คุณสามารถเลือกเปิดบัญชีแบบ
Pre-paid
คือฝากเงินเพื่อซื้อขายตามกำลังความสามารถในการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
ประเภทที่สุดท้าย คือ
นักลงทุนที่ต้องการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด
เพื่อสามารถตัดสินใจลงทุนซื้อขายหุ้นได้ทันท่วงที
|
|
|
บัญชีประเภทไหนบ้างที่สามารถซื้อขายอินเตอร์เน็ต ได้ |
การซื้อขายแบบออนไลน์ไม่ได้หมายความว่าคุณจะส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรงกับตลาดหลักทรัพย์ได้
ก่อนอื่นคุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์หรือซับโบรกเกอร์ให้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหรือตัวแทนของคุณในการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามายังระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เสียก่อน
โบรกเกอร์จะกำหนดนโยบายบริษัทว่าจะให้บริการบัญชีซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตประเภทใดบ้าง
แต่โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท
|
1. บัญชีเงินสด (Cash Account) พูดง่ายๆ
ก็คือบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไปที่คุณรู้จักนั่นเอง
โบรกเกอร์จะให้วงเงินซื้อขายแก่คุณ
โดยคุณจะซื้อขายหุ้นได้ไม่เกินวงเงินนั้น
และต้องชำระเงินค่าซื้อขายและส่งมอบหลักทรัพย์ภายในวันทำการที่ 3
ถัดจากวันที่ซื้อขาย (T+3)
ถ้าคุณซื้อคุณต้องทำการชำระราคาค่าซื้อเต็มมูลค่าหุ้นที่ซื้อในเวลาที่กำหนด
ไม่สามารถชำระแค่บางส่วนได้
2.
บัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance หรือ Pre-paid หรือ Cash
Deposit)
เป็นบัญชีที่คุณต้องฝากเงินไว้กับโบรกเกอร์จำนวนหนึ่งก่อน
สำหรับเป็นเงินชำระค่าหุ้นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
และถือว่าเงินจำนวนนั้นเป็นอำนาจซื้อของคุณเอง เมื่อถึงวันชำระค่าหุ้น
(T+3)
โบรกเกอร์ก็จะหักเงินออกไปจากส่วนที่ฝากนี้ชำระเป็นค่าหุ้นไปอัตโนมัติ
ถ้าคุณต้องการซื้อหุ้น แต่วงเงินไม่พอ ก็สามารถโอนเงินเพิ่ม
เพื่อให้อำนาจซื้อเพิ่มขึ้นได้ บางโบรกเกอร์ก็จะให้ดอกเบี้ยเงินฝากด้วย
|
ซื้อขายแบบดั้งเดิม |
ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และตรวจสอบสถานะซื้อขายได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
ต้องระบุราคาเสนอซื้อขายที่แน่นอน (Limit order)
เท่านั้น ไม่สามารถระบุเงื่อนไขการเสนอซื้อขายได้
ซื้อขายได้เฉพาะบนกระดานหลัก
กระดานหน่วยย่อย และกระดานต่างประเทศ
ด้วยวิธีจับคู่คำสั่งซื้อขายเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ
(Automated Order Matching: AOM)
ค่าธรรมเนียมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 0.20
ของมูลค่าการซื้อขาย
| | |
|
|
|
ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเปิดบัญชีอินเตอร์เน็ต |
เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้นักลงทุนที่มีทุนน้อยสามารถเริ่มลงทุนซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตได้ตามกำลังซื้อของตน
โบรกเกอร์มักแนะนำให้ลูกค้าเปิดบัญชีฝากเงินแบบที่เรียกว่า Pre-paid
คือบัญชีที่คุณจะต้องโอนเงินเข้ามาในบัญชีซื้อขายก่อน
แล้วจึงสามารถซื้อขายได้ภายในวงเงินที่โอนเข้ามานั้น
หากต้องการซื้อหุ้นเพิ่ม ก็เพียงแค่โอนเงินเข้ามาเพิ่ม
อำนาจการซื้อของคุณก็จะเพิ่มขึ้น
สะดวกสำหรับนักลงทุนเพราะไม่ต้องฝากเงินไว้กับโบรกเกอร์นานๆ
โดยที่ยังไม่ได้ทำการซื้อขาย |
|
|
ขั้นตอนในการเปิดบัญชีอินเตอร์เน็ต |
ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
คุณก็สามารถเปิดบัญชีได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนที่โบรกเกอร์กำหนด
ซึ่งคุณสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่การตลาดของโบรกเกอร์ก่อนที่จะเปิดบัญชีได้
ก่อนที่คุณจะลงนามเอกสารใด ๆ
คุณควรจะอ่านรายละเอียดเงื่อนไขในเอกสารต่างๆ ของโบรกเกอร์ให้รอบคอบ
(เอกสารที่ใช้สำหรับแต่ละโบรกเกอร์ อาจแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย)
โดยทั่วไปแล้ว ก็จะมีขั้นตอนที่คุณจะต้องกระทำ ดังนี้
1)
ติดต่อขอเอกสารการเปิดบัญชี
สัญญาและเอกสารแนบต่าง ๆ ที่ใช้ในการเปิดบัญชี
โดยคุณสามารถดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตหรือติดต่อได้ที่สำนักงานของโบรกเกอร์ที่คุณเลือกก็ได้
2)
กรอกรายละเอียดใบคำขอเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ให้ครบถ้วนพร้อมเซ็นชื่อ
และแนบเอกสารประกอบการเปิดบัญชี ส่งให้กับโบรกเกอร์
3) รอผลการพิจารณาจากโบรกเกอร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
4) เมื่อได้รับการอนุมัติให้เปิดบัญชีแล้ว
คุณจะได้รับแจ้งเลขที่บัญชี
หรือรหัสประจำตัวลูกค้าซึ่งจะใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขาย เปลี่ยนแปลง
ยกเลิก รวมทั้งการชำระเงิน หรือในการติดต่อใด ๆ กับโบรกเกอร์
รหัสนี้คุณต้องเก็บเป็นความลับ
เพราะมิฉะนั้นแล้วอาจมีผู้แอบอ้างทำให้เกิดความเสียหายได้
หลังจากที่คุณได้รับอนุมัติเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ตลอดเวลาด้วยตัวเอง
เพิ่มความสะดวกและคล่องตัวในการลงทุน |
|
|
ส่งคำสั่งซื้อขายได้ในช่วงเวลาใด |
เพราะการซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต
ไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องเวลาส่งคำสั่ง
คุณจึงสามารถส่งคำสั่งได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง
แม้แต่ตอนตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ หรือในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
หากคุณส่งคำสั่งในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ
คำสั่งของคุณก็จะส่งตรงสู่ตลาดหลักทรัพย์
คุณสามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งได้ทันทีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
สำหรับคำสั่งซื้อขายที่ส่งเข้ามาในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เปิดทำการ
คำสั่งของคุณก็จะถูกจัดเรียงตามลำดับเวลาที่คุณส่งคำสั่งเข้ามา
และจะถูกส่งไปยังตลาดหลักทรัพย์ทันทีที่ตลาดเปิดทำการ |
|
|
มีข้อมูลอินเตอร์เน็ตอะไรช่วยการตัดสินใจ |
เว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการซื้อขายหุ้นออนไลน์นั้น
ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการรับส่งคำสั่งซื้อขายเท่านั้น
แต่ยังเพียบพร้อมด้วยข้อมูลข่าวสารประกอบการตัดสินใจลงทุนของคุณ
ปัจจุบันข้อมูลที่ให้บริการบนเว็บไซต์ส่วนใหญ่ประกอบด้วย
ข้อมูลหุ้นเรียลไทม์ (Real-time trading
information) ได้แก่ ราคาเสนอซื้อ-เสนอขายหลักทรัพย์
ดัชนีราคาหลักทรัพย์ ปริมาณและมูลค่าการซื้อขาย ภาพรวมการซื้อขาย
สรุปอันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุด
ราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลง เป็นต้น
ส่วนใหญ่จะสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้
ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน (Listed Companies
Info) เช่นรายชื่อคณะกรรมการบริษัท ลักษณะหรือประเภทธุรกิจ
งบการเงินประจำงวดต่างๆ
รวมทั้งข่าวสารความเคลื่อนไหวอื่นๆของแต่ละบริษัท
โดยสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้
รายงานและบทวิเคราะห์หลักทรัพย์
ส่วนใหญ่จะเป็นบทวิเคราะห์ที่จัดทำโดยนักวิเคราะห์ของแต่ละโบรกเกอร์
อาจแยกเป็นวิเคราะห์ข่าวประจำวัน รายงานหุ้นเด่นวันนี้
บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม รายหลักทรัพย์ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
และการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ความเคลื่อนไหวของดัชนี
และข่าวสารของตลาดหุ้นต่างประเทศที่สำคัญ
นอกจากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น
โบรกเกอร์มักมีรูปแบบในการนำเสนอบริการเสริมอื่นๆ
เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลพร้อมประกอบการตัดสินใจ เช่น
เครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ระบบเตือนอัตโนมัติทางโทรศัพท์มือถือ ระบบโอนเงินทางอินเทอร์เน็ต
เป็นต้น |
|
|
รวมลิงค์เปิดบัญชีอินเตอร์เน็ต กับโบรกเกอร์ |
เรารวบรวมลิงค์ข้อมูลการเปิดบัญชีออนไลน์ของโบรกเกอร์ที่มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดบัญชีของคุณ
หากคุณต้องการติดต่อสอบถามโบรกเกอร์อื่น
ค้นหาข้อมูลสำหรับติดต่อบริษัทได้ที่นี่
|
บริษัทสมาชิก (โบรกเกอร์) |
ซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต |
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบ็ก จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) |
|
บริษัทหลักทรัพย์
บีที จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์
กรุงศรีอยุธยา จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์
ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) |
|
บริษัทหลักทรัพย์
ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) |
|
บริษัทหลักทรัพย์
อินเทลวิชั่น จำกัด (มหาชน) |
|
บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) |
|
บริษัทหลักทรัพย์
ทรีนิตี้ จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด |
|
บริษัทหลักทรัพย์
บีฟิท จำกัด |
อยู่ระหว่างการดำเนินการ |
บริษัทหลักทรัพย์
ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด |
| |
|
|
|
เอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ |
|
|
นั้นมาจากคำว่า Public Offering
เป็นการเสนอขายหุ้นที่มีอยู่แล้วใน
ตลท.เพื่อระดมทุนเพิ่มเติม แต่ถ้าเป็น IPO
จะเป็นการขายหุ้นใหม่ ที่ไม่เคยมีการเสนอขายมา |
R
แบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ R
สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
พร้อมค่าอากรแสตมป์ 30 บาท R
สัญญาดูแลและรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
(ถ้ามี) R
บัตรตัวอย่างลายมือชื่อ
R
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
บัตรข้าราชการ หรือหนังสือเดินทาง R
สำเนาทะเบียนบ้าน R
สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร R
สำเนาใบแจ้งรายการบัญชีธนาคารหรือสำเนาสมุดเงินฝากย้อนหลัง
6 เดือน R
เอกสารแสดงเงินเดือน R
แบบคำขอใช้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
(เฉพาะกรณีเลือกซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต) R
แบบคำขอใช้บริการจ่ายชำระระบบอัตโนมัติ/แบบคำขอให้หักบัญชีเงินฝาก/แบบคำขอใช้บริการโอนเงินผ่านระบบ
Tele-Banking
(กรณีให้บริษัทหักค่าซื้อจากบัญชี
และ/หรือนำเงินค่าขายเข้าบัญชี)
|
|
|
R
แบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ R
สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
พร้อมค่าอากรแสตมป์ 30 บาท R
สัญญาดูแลและรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
(ถ้ามี) R
หนังสือมอบอำนาจ
(เซ็นโดยกรรมการผู้มีอำนาจ) พร้อมค่าอากรแสตมป์
ฉบับละ 30 บาท R
หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท R
สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ
วัตถุประสงค์ ทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น
R
สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร R
งบการเงินย้อนหลัง
3 ปี R
บัตรตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจ R
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ R
สำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจ R
แบบคำขอใช้บริการจ่ายชำระระบบอัตโนมัติ
/แบบคำขอให้หักบัญชีเงินฝาก /
แบบคำขอใช้บริการโอนเงินผ่านระบบ Tele-Banking
(กรณีที่ต้องการให้บริษัทหักค่าซื้อจากบัญชี
และ/หรือนำเงินค่าขายเข้าบัญชี)
|
|
กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทน |
R
หนังสือมอบอำนาจ
พร้อมค่าอากรแสตมป์
ฉบับละ 30 บาท R
บัตรตัวอย่างลายมือชื่อของผู้รับมอบอำนาจ R
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ R
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
|
| | |
|
|